adult zone
จากในสถานที่อโคจรแห่งนั้นมาจนถึงบนรถและมาจนถึงคอนโดที่ผู้ชายร่างสูงผิวสีเข้มคนที่มาขอซื้อบริการจากตัวเองอาศัยอยู่ มินยุนกิไม่อาจรู้ได้จริงๆ ว่าตนเองนั้นจูบกับผู้ชายคนนี้ไปกี่ครั้งแล้ว
โดยสิ่งเดียวที่ยุนกิรู้มีเพียงแค่ว่าเมื่อมีการจูบครั้งที่หนึ่งเกิดขึ้นในห้องน้ำตนเองก็รู้สึกติดใจและโหยหารสจูบที่แสนหนักหน่วงของผู้ชายคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก จึงทำให้ตั้งแต่การเจรจาครั้งนั้นจบลงการจูบครั้งที่สองและที่สามจึงตามมาเรื่อยๆ ทันที ก่อนที่สุดท้ายแล้วมินยุนกิเองก็ไม่สามารถที่จะห้ามตัวเองไม่ให้เรียกร้องและต้องการสัมผัสที่แสนจะมอมเมาและชวนให้ลุ่มหลงจากจูบของคนตรงหน้าได้เลย
ซึ่งทั้งๆที่มันก็เป็นแค่การจูบแท้ๆแต่ยุนกิไม่อาจรู้ได้จริงๆว่าทำไมมันถึงสามารถทำให้ตัวเองรู้สึกดีได้มากมายขนาดนี้
แถมยิ่งจูบกันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกอยากมีเซ็กส์กับคนตรงหน้ามากขึ้นเท่านั้น จนตอนนี้ยุนกิเริ่มรู้สึกเชื่อแล้วล่ะว่าคำพูดที่บอกว่าการจูบที่ดีคือการจูบที่ทำให้อยากมีเซ็กส์มันคงจะเป็นเรื่องจริง เพราะตอนนี้ตัวเองอยากมีเซ็กส์กับคนตรงหน้ามากจริงๆ โดยความอยากที่เอ่อล้นออกมาอย่างไม่สามารถที่จะปิดบังได้มิดมันทำให้ทั้งใบหน้าและร่างกายของตัวเองเห่อร้อนไปหมดแล้วจนเหมือนตอนนี้กำลังมีไฟที่น่าจะเป็นไฟราคะมาสุมอยู่ที่อกของตัวเองยังไงยังงั้น
และด้วยความใจร้อนเพราะความต้องการที่เอ่อล้นออกมาจนเต็มเปี่ยมทำให้หลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้ว ยุนกิก็รีบดันแผ่นหลังของคนตัวสูงที่เป็นเจ้าของห้องไปชิดติดกับบานประตูของห้องทันทีก่อนตนเองจะรีบตามไปถาโถมร่างกายเข้าใส่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่แสนจะน่าอายของตนเอง
ริมฝีปากบางเล็กที่ในตอนแรกเหมือนจะยังเคอะเขินและกล้าๆกลัวๆ ตอนจูบ ในเวลานี้และตอนนี้เหมือนจะรู้งานและชำนาญการเสียเหลือเกิน จนหลังจากที่ปล้ำจูบกันอยู่ตรงนั้นสักพักมินยุนกิก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ร่างของตนเองถูกคนตัวสูงจับอุ้มมาวางนอนลงบนเตียงนอนหลังใหญ่ ซึ่งที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าตอนนี้มินยุนกิไม่อยากรับรู้อะไรสักอย่าง อยากรับรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ตนเองกำลังมอมเมาไปกับรสจูบของคนตรงหน้าอย่างเดียว
และถึงแม้ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่จะยังคงมีเสื้อผ้าอาภรณ์อยู่บนร่างกายครบทุกชิ้นก็จริง แต่เป็นเพราะว่าสายตาคมที่ดูยั่วยุและร้อนแรงคู่นั้นของคนผิวเข้มที่เอาแต่จ้องมองมาไม่ยอมหยุดทำเอายุนกิรู้สึกว่าในตอนนี้ร่างกายของตัวเองมันเปลือยเปล่าไปแทบทั้งร่าง
ได้แต่ยื่นมือของตัวเองออกไปกระชากคอเสื้อของคนที่เพิ่งจะละริมฝีปากออกไปเมื่อครู่นี้ลงมาเพื่อประกบจูบใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้คนตัวเล็กก็ต้องรู้สึกขัดใจทันทีเมื่ออยู่ดีๆ ในขณะที่กำลังจูบกัน คนตัวสูงก็พยายามเอาแต่ถดถอยเรียวลิ้นหนีออกไปและไม่ยอมเล่นด้วยเหมือนเก่าพร้อมมือที่เคยจับคลึงไปตามสะโพกอยู่ดีๆ ก็ออกแรงจับกดให้ร่างเล็กทั้งร่างของยุนกิแนบลงไปกับเตียงเสียอย่างนั้น ก่อนเจ้าตัวจะใช้ฟันคมๆ ของตัวเองแกล้งขบกัดมาที่เรียวลิ้นเต็มๆ จนทำเอายุนกิน้ำตาแทบไหลออกมาก่อนจะถอนริมฝีปากออกไปและระบายรอยยิ้มที่แสนร้ายกาจขึ้นมาบนใบหน้าให้ได้เห็น
ได้แต่ยื่นมือของตัวเองออกไปกระชากคอเสื้อของคนที่เพิ่งจะละริมฝีปากออกไปเมื่อครู่นี้ลงมาเพื่อประกบจูบใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้คนตัวเล็กก็ต้องรู้สึกขัดใจทันทีเมื่ออยู่ดีๆ ในขณะที่กำลังจูบกัน คนตัวสูงก็พยายามเอาแต่ถดถอยเรียวลิ้นหนีออกไปและไม่ยอมเล่นด้วยเหมือนเก่าพร้อมมือที่เคยจับคลึงไปตามสะโพกอยู่ดีๆ ก็ออกแรงจับกดให้ร่างเล็กทั้งร่างของยุนกิแนบลงไปกับเตียงเสียอย่างนั้น ก่อนเจ้าตัวจะใช้ฟันคมๆ ของตัวเองแกล้งขบกัดมาที่เรียวลิ้นเต็มๆ จนทำเอายุนกิน้ำตาแทบไหลออกมาก่อนจะถอนริมฝีปากออกไปและระบายรอยยิ้มที่แสนร้ายกาจขึ้นมาบนใบหน้าให้ได้เห็น
“จูบเป็นอย่างเดียวเหรอ ? ฉันไม่ได้ซื้อให้นายมาจูบฉันอย่างเดียวนะ”
และหลังจากนั้นเรียวปากที่กำลังระบายรอยยิ้มที่แสนร้ายกาจอยู่นั้นจะขยับพูดประโยคที่ฟังดูคล้ายกำลังสบประมาทกันออกมา ทำเอาคนที่เหมือนกำลังโดนสบประมาทอย่างมินยุนกิที่ตอนนี้กำลังนอนหอบหายใจรวยรินอยู่ต้องรู้สึกหงุดหงิดและเสียเซลฟ์เล็กน้อยเพราะด้วยนิสัยพื้นฐานดันเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมากล่าวดูถูกกันแบบนี้พอดี .. ดังนั้นเสียงจิ๊ปากเพราะขัดใจจึงดังขึ้นมาให้ได้ยิน ก่อนเจ้าตัวคนที่จิ๊ปากจะตัดสินใจออกแรงกระชากคอเสื้อของคนตรงหน้าลงมาเพื่อจะจูบอีกครั้ง แต่ก็ต้องโดนคนตรงหน้ายกมือขึ้นมาดึงออกก่อนจะจับขึงลงไปกับเตียงแทน
"ไม่ให้จูบแล้ว เบื่อแล้ว"
เสียงโทนต่ำของคนผิวเข้มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ โน้มใบหน้าของตัวเองลงไปคลอเคลียกับพวงแก้มขาวที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อของคนใต้ร่างที่ตอนนี้ลมหายใจกำลังติดๆขัดๆ ช้าๆ ซึ่งเพราะแบบนั้นจึงทำให้ร่างทั้งร่างของคนตัวเล็กที่นอนหายใจติดๆขัดๆ อยู่เริ่มสั่นระริกขึ้นมาแทบทันที จนทำให้แทฮยองหรือคนผิวเข้มที่ว่าเมื่อได้เห็นอาการของคนตัวเล็กเป็นแบบนั้นแล้วก็อดไม่ได้จริงๆที่จะไม่พลั้งปากพูดเย้าแหย่ด้วยถ้อยคำที่ฟังดูลามกและหยาบโลนออกไปอย่างนึกเอ็นดู
“ตอนที่นายกำลังนอนสั่นไปทั้งตัวแบบนี้มันทำให้นายดูน่าขย้ำมากเลยนะ อืม..ฉันจะเริ่มกลัวแล้วสิเด็กน้อย ฉันกลัวว่าฉันอาจจะอดใจไม่ไหวที่จะไม่ทำอะไรรุนแรงกับร่างกายของนายลงไป”
“ผม..อึก..ม..ไม่ใช่เด็ก..อย่าเรียกผม...แบบนั้น...”
“เลยอายุสิบแปดมากี่ปีแล้วล่ะถึงบอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็ก.. หรือว่าความจริงแล้วยังไม่ถึงแต่แอบลักลอบเข้ามาในผับ อา..ให้ตายสิ...ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์หรือเปล่านะ..”
“ห—หุบปาก...ฮื่อ...หุบปาก..ป..ไป...ไปเลย..อ..อ๊ะ..เจ็บ!” คนตัวเล็กที่กำลังโดนรังแกทั้งคำพูดและการกระทำรวมไปถึงสายตาได้แต่พูดว่าออกมาตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงที่แสนจะสั่นเครือเกินทน ก่อนใบหน้าหวานจะเหยเกเล็กน้อยพร้อมทั้งเผลอร้องโวยวายออกมาด้วยความเจ็บ เมื่ออยู่ดีๆ ต้นคอของตัวเองก็โดนคนผิวเข้มกัดเสียจนน่าจะจมเขี้ยว
และยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้โวยวายอะไรออกไปมากกว่านี้ อยู่ดีๆ
คนตัวเล็กที่กำลังอ้าปากเตรียมจะโวยวายออกมาก็ถูกจับพลิกร่างทั้งร่างให้ขึ้นมานอนอยู่บนร่างของคนตัวสูงอย่างรวดเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ดวงตาเรียวต้องเปิดกว้างเพราะความตกใจทันที แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางๆก็ยังคงสั่นสะท้านไม่ยอมหยุดแถมสั่นหนักกว่าเดิมอีก ...
จนถึงตอนนี้ยุนกิเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันเป็นเรื่องค่อนข้างน่าอายที่จากคนที่เคยร้ายกาจและซุกซนเมื่ออยู่บนเตียงอย่างตัวเองเมื่อได้มาอยู่บนเตียงเดียวกันกับผู้ชายคนนี้ร่างกายก็กลับอ่อนยวบยาบและไร้เรี่ยวแรงไปหมดเลยอาจจะเรียกได้ว่าคล้ายเสือที่สิ้นลายก็เป็นไปได้เพราะตนเองรู้สึกเหมือนโดนถอดเขี้ยวเล็บออกไปจนหมดจริงๆตั้งแต่ขึ้นมาอยู่บนเตียงกับผู้ชายคนนี้ ..
ใบหน้าหวานได้แต่ตัดสินใจค่อยๆ ซบลงไปที่แผงอกแกร่งของคนใต้ร่างช้าๆ ก่อนหน้าอกเล็กบางของคนตัวเล็กจะเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงถี่รัวเพราะคนตัวเล็กกำลังพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองอยู่ ..แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงมินยุนกิก็รู้สึกว่ามันไม่สามารถที่จะควบคุมได้เลย มิหนำซ้ำลมหายใจที่พยายามควบคุมในตอนแรกก็เริ่มจะติดๆขัดๆหนักกว่าเดิมจนฝ่ามือขาวทั้งสองข้างที่เคยจับกำขยำเสื้ออยู่ในตอนแรกต้องจับขยำให้แน่นยิ่งกว่าเดิมโดยทันที ก่อนจะออกแรงดึงกระชากเล็กน้อยเพื่อระบายความรู้สึกที่แสนอึดอัดที่เกิดกับร่างกายของตนเอง เนื่องจากในตอนนี้ร่างกายส่วนล่างของมินยุนกิมันดันอยู่ตรงกับส่วนนั้นของร่างกายคนผิวเข้มพอดิบพอดี มันจึงเสียดสีและดึงดันเข้าหากันอย่างไม่อาจห้ามได้
เรียวปากบางเล็กค่อยๆขบเม้มเข้าหากันอย่างนึกขัดใจและในวินาทีสุดท้ายที่ยุนกิกำลังจะเผลอหลุดเสียงครางออกมา อยู่ดีๆ โทนเสียงทุ้มต่ำของคนใต้ร่างก็พูดประโยคหนึ่งที่แสนจะท้าทายออกมาให้ได้ยินเสียก่อน
จนถึงตอนนี้ยุนกิเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันเป็นเรื่องค่อนข้างน่าอายที่จากคนที่เคยร้ายกาจและซุกซนเมื่ออยู่บนเตียงอย่างตัวเองเมื่อได้มาอยู่บนเตียงเดียวกันกับผู้ชายคนนี้ร่างกายก็กลับอ่อนยวบยาบและไร้เรี่ยวแรงไปหมดเลยอาจจะเรียกได้ว่าคล้ายเสือที่สิ้นลายก็เป็นไปได้เพราะตนเองรู้สึกเหมือนโดนถอดเขี้ยวเล็บออกไปจนหมดจริงๆตั้งแต่ขึ้นมาอยู่บนเตียงกับผู้ชายคนนี้ ..
ใบหน้าหวานได้แต่ตัดสินใจค่อยๆ ซบลงไปที่แผงอกแกร่งของคนใต้ร่างช้าๆ ก่อนหน้าอกเล็กบางของคนตัวเล็กจะเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงถี่รัวเพราะคนตัวเล็กกำลังพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองอยู่ ..แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงมินยุนกิก็รู้สึกว่ามันไม่สามารถที่จะควบคุมได้เลย มิหนำซ้ำลมหายใจที่พยายามควบคุมในตอนแรกก็เริ่มจะติดๆขัดๆหนักกว่าเดิมจนฝ่ามือขาวทั้งสองข้างที่เคยจับกำขยำเสื้ออยู่ในตอนแรกต้องจับขยำให้แน่นยิ่งกว่าเดิมโดยทันที ก่อนจะออกแรงดึงกระชากเล็กน้อยเพื่อระบายความรู้สึกที่แสนอึดอัดที่เกิดกับร่างกายของตนเอง เนื่องจากในตอนนี้ร่างกายส่วนล่างของมินยุนกิมันดันอยู่ตรงกับส่วนนั้นของร่างกายคนผิวเข้มพอดิบพอดี มันจึงเสียดสีและดึงดันเข้าหากันอย่างไม่อาจห้ามได้
เรียวปากบางเล็กค่อยๆขบเม้มเข้าหากันอย่างนึกขัดใจและในวินาทีสุดท้ายที่ยุนกิกำลังจะเผลอหลุดเสียงครางออกมา อยู่ดีๆ โทนเสียงทุ้มต่ำของคนใต้ร่างก็พูดประโยคหนึ่งที่แสนจะท้าทายออกมาให้ได้ยินเสียก่อน
“ถ้าไม่อยากให้ฉันเรียกนายว่าเด็กก็ทำให้ดูหน่อยสิว่าทำอะไรได้บ้าง แล้วที่บอกว่าของดีน่ะ ดีแค่ไหน ?”
สิ้นสุดคำพูดที่ฟังดูคล้ายกำลังสบประมาทของคนผิวเข้ม มินยุนกิก็ตัดสินใจใช้ฟันคมขบกัดไปที่ริมฝีปากด้านล่างของตัวเองอย่างเต็มแรงเพราะต้องการที่จะหักห้ามใจไม่ให้เผลอส่งเสียงครางร้องออกมาด้วยยุนกิรู้สึกกลัวว่าถ้าหากคนใต้ร่างได้ยินเสียงครางร้องของตนเองแล้วจะยิ่งได้ใจกว่าเดิมจนอาจกล่าวคำพูดในทำนองดูถูกออกมาหนักกว่านี้
และในขณะที่รู้สึกเหมือนตนเองเริ่มจะควบคุมอารมณ์ความต้องการที่ซัดโหมกระหน่ำราวกับพายุให้สงบลงได้แล้วคนตัวเล็กก็ตัดสินใจผงกหัวของตัวเองขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ๆ ในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างที่เคยกำขยำเสื้ออยู่ก็ค่อยๆปล่อยออกและเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนผิวเข้มออกทีละเม็ดอย่างทุลักทุเล เพราะถึงแม้ตอนแรกคนตัวเล็กจะพยายามควบคุมสติอารมณ์ไม่ให้โหมกระหน่ำได้แล้วก็จริง แต่ในตอนนี้เหมือนมันจะเริ่มปะทุขึ้นมาใหม่แล้ว มือเล็กๆที่กำลังปลดกระดุมอยู่มันถึงสั่นสะท้านไม่ยอมหยุดเลย
และหลังจากที่ปลดกระดุมเสื้อของคนผิวเข้มออกจนเกือบหมด มินยุนกิก็ค่อยๆ ใช้สองมือของตัวเองวางแนบไปกับแผงอกก่อนจะแหวกเสื้อเชิ้ตออกช้าๆ จนในที่สุดก็สามารถเผยให้เห็นแผงอกกว้างของคนผิวเข้มแบบเต็มๆ ตา และเพราะแบบนั้นทำให้ยุนกิตัดสินใจรีบใช้ริมฝีปากของตัวเองพรมจูบไปทั่วแผงอกกว้างของคนผิวเข้มใต้ร่างทันทีแถมยังแอบขบกัดไปด้วยเล็กน้อยเพราะอยูดีๆ คนตัวเล็กก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังคันฟันเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่หลังจากนั้นแววตาหวานที่ฉ่ำเชื่อมไปด้วยแรงอารมณ์จะค่อยๆ ช้อนขึ้นเพื่อมองดูใบหน้าของคนที่เป็นเจ้าของแผงอกกว้างที่ตัวเองเพิ่งฝากรอยเขี้ยวไปช้าๆ อย่างต้องการจะยั่วยวนกันให้เกิดอารมณ์ ซึ่งจากการค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมองช้าๆ แบบนี้ ยุนกิก็เห็นว่าในตอนนี้แววตาของคนที่เคยสบประมาทตนเองในตอนแรกมันช่างแสนจะปรือปรอยเต็มทน และไหนจะมือหนาที่เริ่มอยู่ไม่สุขจนต้องขยับเข้ามาซุกซนลูบๆคลำๆ อยู่ใต้ชายเสื้อของตัวเองอีก
"ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ใช่เด็กน้อย แล้วลีลาผมก็ดีจริงๆ เพราะงั้นค่าตัวที่ผมเรียกเก็บคุณไปมันอาจจะแพงเกินไปหน่อยแต่มันก็คุ้มค่าแน่นอน" คนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังรู้สึกได้ใจพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนเรียวปากสีชมพูที่ขยับพูดในตอนแรก จะค่อยๆขบงับไปที่ยอดอกของคนผิวเข้มเบาๆ ก่อนจะรีบตามมาด้วยการใช้เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับยอดอกของคนตรงหน้าอย่างต้องการสร้างความเสียวซ่านให้อย่างต่อเนื่องทันที
และในขณะที่รู้สึกเหมือนตนเองเริ่มจะควบคุมอารมณ์ความต้องการที่ซัดโหมกระหน่ำราวกับพายุให้สงบลงได้แล้วคนตัวเล็กก็ตัดสินใจผงกหัวของตัวเองขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ๆ ในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างที่เคยกำขยำเสื้ออยู่ก็ค่อยๆปล่อยออกและเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนผิวเข้มออกทีละเม็ดอย่างทุลักทุเล เพราะถึงแม้ตอนแรกคนตัวเล็กจะพยายามควบคุมสติอารมณ์ไม่ให้โหมกระหน่ำได้แล้วก็จริง แต่ในตอนนี้เหมือนมันจะเริ่มปะทุขึ้นมาใหม่แล้ว มือเล็กๆที่กำลังปลดกระดุมอยู่มันถึงสั่นสะท้านไม่ยอมหยุดเลย
และหลังจากที่ปลดกระดุมเสื้อของคนผิวเข้มออกจนเกือบหมด มินยุนกิก็ค่อยๆ ใช้สองมือของตัวเองวางแนบไปกับแผงอกก่อนจะแหวกเสื้อเชิ้ตออกช้าๆ จนในที่สุดก็สามารถเผยให้เห็นแผงอกกว้างของคนผิวเข้มแบบเต็มๆ ตา และเพราะแบบนั้นทำให้ยุนกิตัดสินใจรีบใช้ริมฝีปากของตัวเองพรมจูบไปทั่วแผงอกกว้างของคนผิวเข้มใต้ร่างทันทีแถมยังแอบขบกัดไปด้วยเล็กน้อยเพราะอยูดีๆ คนตัวเล็กก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังคันฟันเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่หลังจากนั้นแววตาหวานที่ฉ่ำเชื่อมไปด้วยแรงอารมณ์จะค่อยๆ ช้อนขึ้นเพื่อมองดูใบหน้าของคนที่เป็นเจ้าของแผงอกกว้างที่ตัวเองเพิ่งฝากรอยเขี้ยวไปช้าๆ อย่างต้องการจะยั่วยวนกันให้เกิดอารมณ์ ซึ่งจากการค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมองช้าๆ แบบนี้ ยุนกิก็เห็นว่าในตอนนี้แววตาของคนที่เคยสบประมาทตนเองในตอนแรกมันช่างแสนจะปรือปรอยเต็มทน และไหนจะมือหนาที่เริ่มอยู่ไม่สุขจนต้องขยับเข้ามาซุกซนลูบๆคลำๆ อยู่ใต้ชายเสื้อของตัวเองอีก
"ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ใช่เด็กน้อย แล้วลีลาผมก็ดีจริงๆ เพราะงั้นค่าตัวที่ผมเรียกเก็บคุณไปมันอาจจะแพงเกินไปหน่อยแต่มันก็คุ้มค่าแน่นอน" คนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังรู้สึกได้ใจพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนเรียวปากสีชมพูที่ขยับพูดในตอนแรก จะค่อยๆขบงับไปที่ยอดอกของคนผิวเข้มเบาๆ ก่อนจะรีบตามมาด้วยการใช้เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับยอดอกของคนตรงหน้าอย่างต้องการสร้างความเสียวซ่านให้อย่างต่อเนื่องทันที
ซึ่งเพราะแบบนั้นทำให้คนที่ตอนนี้กำลังโดนคนตัวเล็กใช้ริมฝีปากและเรียวลิ้นปรนเปรอหยอกล้อสร้างความเสียวซ่านให้กับยอดอกของตัวเองอยู่อย่างแทฮยองอดไม่ได้จริงๆ ที่จะหัวเราะออกมาในลำคออย่างถูกใจ เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวน้อยบนร่างของตัวเองตอนนี้ความจริงก็น่าจะเจนจัดกับเรื่องพวกนี้อยู่ไม่เบา แต่ถึงอย่างไรในสายตาของเขาก็มองว่าเจ้าตัวน้อยบนร่างตอนนี้ช่างแสนไร้เดียงสาและใสซื่ออยู่ดี ไม่งั้นคงไม่เผลอบ้าจี้ยอมทำตามคำสบประมาทของตนเองง่ายๆ เหมือนเด็กที่ยุอะไรนิดอะไรหน่อยก็ขึ้นแบบนี้ ..
แต่ถึงอย่างไรก็ตามในตอนนี้แทฮยองก็ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อหักห้ามอารมณ์ของตัวเองไม่ให้เผลอส่งเสียงร้องออกมาในตอนที่เรียวลิ้นเล็กๆ ของคนบนร่างเริ่มจะเกี่ยวกระหวัดและสลับหยอกล้อกับยอดอกทั้งสองข้างของตนเองหนักขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มันชื้นแฉะไปหมดแล้ว ด้วยกลัวว่าหากตนเองส่งเสียงร้องออกมาคนตัวเล็กจะรู้สึกได้ใจและทนงตัวเองมากกว่าเดิม แต่ก็เป็นเพราะว่าแทฮยองไม่ยอมส่งเสียงร้องอะไรออกมานั่นแหละ จึงทำให้หลังจากนั้นได้ไม่นานคนตัวเล็กก็ตัดสินใจละริมฝีปากออกมาจากยอดอกที่เปียกแฉะและเปลี่ยนไปใช้ปลายนิ้วหยอกล้อแทนเนื่องจากคนตัวเล็กต้องการเปลี่ยนมาใช้ริมฝีปากคลอเคลียและไล่พรมจูบและขบกัดไปตามบริเวณร่องไหปลาร้าแทนเพื่อทำให้คนผิวเข้มเสียวซ่านจนยอมส่งเสียงครางร้องออกมาให้ได้
และแน่นอนว่าเป็นเพราะทั้งๆ ที่ในตอนนี้ตัวเองโดนคนตัวเล็กแกล้งหนักขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมส่งเสียงร้องอะไรออกไปสักอย่าง จึงทำให้แทฮยองเห็นว่าในตอนนี้บนใบหน้าของคนอายุน้อยกว่ากำลังแสดงออกมาถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เห็นตนเองไม่มีปฏิกิริยาตอบอะไรกลับไปเลย
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานแทฮยองคิดว่าเจ้าคนตัวเล็กบนร่างตัวเองคงอยากจะเอาชนะคำสบประมาทเต็มทนถึงได้เริ่มเล่นแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยการแกล้งใช้ส่วนล่างของร่างกายบดเบียดลงมากับส่วนล่างของร่างกายตนเองแบบนี้ แถมแววตาคู่สวยก็ยังค่อยๆช้อนขึ้นมามองช้าๆ อีกด้วย ในตอนที่อีกฝ่ายกำลังแกล้งใช้ฟันคมซี่เล็กขบกัดไปที่ริมฝีปากด้านล่างและปล่อยออกมา
และแน่นอนว่าเป็นเพราะทั้งๆ ที่ในตอนนี้ตัวเองโดนคนตัวเล็กแกล้งหนักขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมส่งเสียงร้องอะไรออกไปสักอย่าง จึงทำให้แทฮยองเห็นว่าในตอนนี้บนใบหน้าของคนอายุน้อยกว่ากำลังแสดงออกมาถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เห็นตนเองไม่มีปฏิกิริยาตอบอะไรกลับไปเลย
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานแทฮยองคิดว่าเจ้าคนตัวเล็กบนร่างตัวเองคงอยากจะเอาชนะคำสบประมาทเต็มทนถึงได้เริ่มเล่นแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยการแกล้งใช้ส่วนล่างของร่างกายบดเบียดลงมากับส่วนล่างของร่างกายตนเองแบบนี้ แถมแววตาคู่สวยก็ยังค่อยๆช้อนขึ้นมามองช้าๆ อีกด้วย ในตอนที่อีกฝ่ายกำลังแกล้งใช้ฟันคมซี่เล็กขบกัดไปที่ริมฝีปากด้านล่างและปล่อยออกมา
เด็กหนอเด็ก.. อยากเอาชนะอย่างเดียว จนทำอะไรไม่คิดถึงความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายตัวเองต่อจากนี้เลยหรือยังไง ..
“คิดค่าตัวตั้งแพง แถมคุยโม้ไว้ตั้งเยอะ แต่ทำได้แค่นี้เองเหรอไง ?”
และเมื่อรู้สึกเริ่มใกล้จะหมดความอดทนแทฮยองก็ค่อยๆ ใช้โทนเสียงทุ้มของตัวเองแกล้งเอ่ยถามคำถามที่ฟังดูคล้ายกำลังสบประมาทคนตัวเล็กบนร่างที่ตอนนี้เริ่มขยับตัวชึ้นมาใช้ริมฝีปากไล่จูบและดูดดึงตามซอกคอของตนเองออกมาอีกครั้ง ซึ่งทันทีที่สิ้นสุดคำถามเรียวปากที่ไล่พรมจูบของคนตัวเล็กก็ได้เลื่อนขยับมาหยุดตรงบริเวณริมฝีปากพอดี ก่อนเสียงจิ๊ปากขัดใจที่คนตัวเล็กน่าจะชอบทำเป็นประจำเวลาโดนขัดใจจะดังขึ้นมาให้ได้ยินเบาๆ
“นี่จะแกล้งกันเหรอ ? โดนขนาดนี้ไม่คิดจะรู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง ทำไมไม่ส่งเสียงร้องอะไรออกมาเลยล่ะ !?”
“แกล้งอะไร ? ฉันไม่ใช่เด็กๆนะถึงจะได้แกล้งกันแบบนั้น ที่ฉันไม่ส่งเสียงร้องอะไรออกมาก็เพราะว่าฝีมือของนายมันไม่ถึงขั้นต่างหาก มานี่มาเด็กน้อย เดี๋ยวนายแค่นอนนิ่งๆ แล้วฉันจะทำให้ดูว่าการปลุกเร้าอารมณ์ที่ดีแบบที่ผู้ใหญ่ทำกันเขาทำกันยังไงดีกว่า” ตัวเจ้าของโทนเสียงทุ้มพูดออกมาอย่างเอาแต่ใจก่อนจะรีบจับพลิกร่างของคนตัวเล็กให้กลับมานอนอยู่ใต้ร่างของตัวเองอีกครั้งนึง
ซึ่งทันทีที่สิ้นสุดคำพูดพวกนั้นพร้อมกับร่างของตัวเองกลับมาอยู่ข้างล่างเหมือนเดิม มินยุนกิก็เผลอตกใจจนทำหน้าเหวอออกมาทันที พร้อมทั้งดวงตาเรียวก็เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยด้วยความตื่นตกใจ ก่อนที่สุดท้ายแล้วร่างกายเล็กๆ ที่เคยสงบนิ่งในตอนแรกของยุนกิจะเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้งเมื่ออยู่ดีๆ มือหนาของคนตรงหน้าที่บอกว่าจะทำให้ดูว่าการปลุกเร้าอารมณ์แบบที่ผู้ใหญ่ทำกันมันทำยังไงก็ได้ผลุบหายเข้ามาอยู่ใต้ชายเสื้อของตัวเองเรียบร้อยแล้ว แถมยังแกล้งลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบนราบจนรู้สึกมวนท้องไปหมดอีก จนตอนนี้มินยุนกิอดไม่ได้จริงๆ ที่จะส่งเสียงครางร้องออกมาและบิดเร้าร่างกายของตัวเองเล็กน้อยเมื่อความรู้สึกมวนท้องมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนปั่นป่วนไปหมด
“ฮ..ค...คุณ..คุณ...ฮื่อ..อ—อึก..อื้อ..”
“เป็นยังไงบ้าง ? เห็นถึงความแตกต่างหรือเปล่า ? นี่ขนาดฉันแค่จับแค่ลูบนายเฉยๆเองนะยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนายก็ส่งเสียงครางออกมาแล้ว”
และเป็นเพราะคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของคนตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังใช้สายตาที่ดูอนาจารจ้องมองมาที่ตนเองอยู่ ทำให้คนร่างเล็กอย่างมินยุนกิที่ตอนนี้กำลังนอนบิดเร้าร่างกายด้วยความทรมานที่เกิดจากความวาบหวามที่ได้รับจากมือหนาต้องเอาแต่ใช้ฟันคมซี่เล็กกัดปากของตัวเองอย่างนึกเจ็บใจ ก่อนจะตัดสินใจอ้าปากเตรียมจะเถียงอย่างอวดดี
“ก็ไม่เห็—อะ..อา—ฮื่อ..คุณ..อ..อึก..อื้อ..”
แต่ก็เถียงไม่ได้ เมื่ออยู่ดีๆปลายนิ้วของคนที่กำลังใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของตัวเองอยู่ก็ได้เลื่อนขึ้นมาและสะกิดที่ยอดอกเบาๆ ก่อนจะออกแรงขยี้เล็กน้อย จึงทำให้คนที่ตอนนี้โดนแกล้งใช้มือขยี้ยอดอกอยู่อย่างมินยุนกิต้องดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่านทันที ก่อนจะรีบใช้มือเล็กๆทั้งสองข้างของตัวเองตะปบไปกับผ้าปูที่นอนด้วยความทรมาน พร้อมทั้งริมฝีปากบางก็ถูกเม้มแน่นเข้าหากันอย่างนึกขัดใจและหงุดหงิดที่เถียงอะไรออกไปไม่ได้สักอย่างเพราะสัมผัสวาบหวามดันพุ่งตรงเข้าเล่นงานร่างกายตนเองเสียก่อนจะได้เถียง ก่อนที่หลังจากนั้นใบหน้าหวานจะนิ่วลงด้วยความเจ็บเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆ ตัวเจ้าของมือที่กำลังแกล้งขยี้และสะกิดยอดอกของตัวเองอยู่ในขณะนี้ได้ก้มใบหน้าคมลงมาซุกไซ้และดูดดึงทำรอยตรงซอกคออย่างเอาแต่ใจ
แต่ก็เถียงไม่ได้ เมื่ออยู่ดีๆปลายนิ้วของคนที่กำลังใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของตัวเองอยู่ก็ได้เลื่อนขึ้นมาและสะกิดที่ยอดอกเบาๆ ก่อนจะออกแรงขยี้เล็กน้อย จึงทำให้คนที่ตอนนี้โดนแกล้งใช้มือขยี้ยอดอกอยู่อย่างมินยุนกิต้องดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่านทันที ก่อนจะรีบใช้มือเล็กๆทั้งสองข้างของตัวเองตะปบไปกับผ้าปูที่นอนด้วยความทรมาน พร้อมทั้งริมฝีปากบางก็ถูกเม้มแน่นเข้าหากันอย่างนึกขัดใจและหงุดหงิดที่เถียงอะไรออกไปไม่ได้สักอย่างเพราะสัมผัสวาบหวามดันพุ่งตรงเข้าเล่นงานร่างกายตนเองเสียก่อนจะได้เถียง ก่อนที่หลังจากนั้นใบหน้าหวานจะนิ่วลงด้วยความเจ็บเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆ ตัวเจ้าของมือที่กำลังแกล้งขยี้และสะกิดยอดอกของตัวเองอยู่ในขณะนี้ได้ก้มใบหน้าคมลงมาซุกไซ้และดูดดึงทำรอยตรงซอกคออย่างเอาแต่ใจ
"ฉันชื่อแทฮยองนะ..คิมแทฮยอง..”
“อ—อื้อ..อือ”
“ฉันอายุมากกว่านาย เพราะงั้นถ้านายเรียกฉันว่าพี่ตอนครางร้องออกมามันคงจะดูน่ารักไม่น้อยและตอนนั้นฉันก็อาจจะเอ็นดูนายถึงขนาดเบาไม้เบามือให้บ้าง” พูดจบปลายจมูกโด่งก็ไล้สูงขึ้นมาตามแนวยาวของซอกคอเรื่อยๆ โดยไม่วายที่ในขณะไล้ปลายจมูกขึ้นมาจะแกล้งเป่าลมหายใจรดไปตามต้นคอและไล่มาจนถึงใบหูเพื่อสร้างความเสียวซ่านตลอดทาง
“ถึงฉันจะไม่มีของเล่นพิสดารมาเล่นกับนายก็จริง แต่เซ็กส์ของฉันมันก็ค่อนข้างที่จะหนักแล้วก็ทรมานอยู่พอสมควร โดยเฉพาะยิ่งได้เจอคนน่ารักและแกล้งง่ายแบบนายแล้วก็ฉันก็ไม่รู้เลยว่าจะห้ามใจตัวเองไหว ไม่ให้จับทรมานนายหนักๆได้หรือเปล่า”
หลังสิ้นสุดคำพูดข้างต้นที่ออกมาจากปากของคนผิวเข้มที่กำลังรังแกร่างกายของตัวเองอยู่ อยู่ดีๆ คนตัวเล็กที่ได้ยินประโยคดังกล่าวก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ จนมือที่กำขยำผ้าปูที่นอนอยู่ต้องกำขยำให้แน่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่หลังจากนั้นหน้าอกบางจะเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงถี่รัวหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมือหนาของคนบนร่างยังคงเฝ้าสาละวนลูบๆคลำๆ อยู่ตรงหน้าท้องของตนเองและใบหน้าก็คลอเคลียตรงซอกคอไม่ยอมเลิกรา
“กลัวเหรอเด็กน้อย
ตัวสั่นซะน่าเอ็นดูเชียว
ไม่ต้องกลัวหรอกนะ”
“ผม..ผ..ผม..ม—ไม่ได้กลัว..ผมไม่..ไม่....ฮื่อ..ก..กลัว..”
ยุนกิได้แต่ทำเป็นอวดเก่งพูดออกไปแบบนั้นอีกครั้งนึงถึงแม้ว่าในตอนนี้ในใจของตัวเองจะรู้สึกกลัวมากก็ตาม แถมตรงบริเวณขอบตาเรียวตอนนี้ก็รู้สึกร้อนผ่าวๆ เหมือนมีน้ำตามาคลอหน่วงอยู่เตรียมไหลรินออกมาอีกเพราะว่าในตอนนี้มินยุนกิไม่อาจรู้ได้เลยว่านิยามของคำว่าทรมานและหนักของคนนี้มันทรมานแล้วก็หนักขนาดไหน
“กลัวก็บอกว่ากลัวเถอะ.. ยิ่งทำตัวปากเก่งแบบนี้มันจะยิ่งทำให้นายทรมานหนักกว่าเดิมรู้มั้ย”
“ผ..ผม..อึก..ผมบอกว่าไม่ได้กลัวไง
คุณจะดูถูก..ฮื่อ..ดูถูก...ผม...อ—อื้อ...ไปถึงไหน..ฮื่อ—”
ถึงแม้ว่าตอนนี้ร่างกายจะสั่นสะท้านไม่ยอมหยุดและดวงตาก็เริ่มมีแต่น้ำคลอหน่วงเต็มไปหมด คนตัวเล็กก็ยังคงพูดปฏิเสธออกมาว่าตัวเองไม่ได้กลัวไม่ยอมเลิกรา ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานร่างกายที่เต็มไปด้วยเริ่มแรงอารมณ์ที่แสนหนักหน่วงของคนตัวเล็กจะถูกปลดเปื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกภายในเวลาอันรวดเร็ว
มินยุนกิได้แต่รีบใช้มือเล็กๆ ของตัวเองจับขยุ้มกลุ่มผมของคนผิวเข้มเอาไว้ทันที ก่อนจะเผลอหวีดร้องออกมาเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆ ยอดอกของตัวเองเริ่มจะเปียกแฉะไปแล้วข้างนึงในขณะที่อีกข้างก็โดนมือหนาของคนผิวเข้มแกล้งสะกิดสลับกับขยี้ไม่ยอมหยุดแถมยังหนักขึ้นเรื่อยๆ อีก
“อ๊ะ!..อ...ฮ—ฮื่อ..คุณ...คุณ...”
และในขณะที่ใบหน้าคมพร้อมมืออีกข้างยังคงสร้างความเสียวซ่านและปั่นป่วนให้กับร่างกายคนตัวเล็กอยู่ตรงบริเวณยอดอกนั้น มืออีกข้างนึงของคนผิวเข้มที่ตอนแรกใช้มันลูบไล้ไปตามช่วงเอวคอดบางก็ค่อยๆเลื่อนไปสาละวนวุ่นวายอยู่ตรงบริเวณเป้ากางเกงของคนตัวเล็กแทน และเมื่อยามเสียงรูดซิปกางเกงดังขึ้นมาพร้อมมือหนาก็ทำท่าจะกระชากกางเกงออก มินยุนกิก็ยินยอมให้ความร่วมมือช่วยอีกฝ่ายถอดกางเกงของตัวเองออกไปแต่โดยดีเพราะว่าในตอนนี้คนตัวเล็กกำลังรู้สึกหัวหมุนจนทำอะไรไม่ถูกสักอย่างถึงขนาดที่ว่าถ้าตอนนี้คนผิวเข้มตรงหน้าสั่งให้ทำอะไรมินยุนกิก็คงจะทำมันโดยไม่คิดที่จะขัดขืนแน่นอน
ก่อนที่หลังจากจับกระชากกางเกงออกไปให้พ้นทางเรียบร้อยแล้วแถมเจ้าตัวก็ยอมเป็นฝ่ายให้ความร่วมมือช่วยให้ถอดออกง่ายๆ แทฮยองก็ต้องค่อยๆ ระบายยิ้มออกมาที่มุมปากเล็กน้อยทันทีหลังจากละริมฝีปากออกมาจากยอดอกและไล้จูบต่ำลงมาเรื่อยๆ ในขณะที่มือข้างที่เคยใช้สะกิดแกล้งยอดอกค่อยๆ จับขาของคนตัวเล็กตั้งชันขึ้นมาพร้อมแหวกออกข้างนึงในขณะที่ตัวเองก็รีบตามมาใช้ริมฝีปากพรมจูบสลับกับแกล้งขบกัดทำรอยตรงบริเวณต้นขาอ่อนต่อ ซึ่งเพราะแบบนั้นทำให้คนที่กำลังโดนกระทำอย่างมินยุนกิต้องเชิดหน้าขึ้นสูงและครางร้องออกมาระงมทันทีในขณะที่มือก็ทั้งกำทั้งดึงผ้าปูที่นอนจบยับยู่ยี่ไปหมด
และหลังจากนั้นไม่นานน้ำตาที่เอ่อล้นมาเป็นเวลาเนิ่นนานก็เริ่มไหลซึมออกมาจากหางตาเรียวของคนตัวเล็กช้าๆ เมื่อความรู้สึกเจ็บตรงบริเวณต้นขาอ่อนทั้งสองข้างของตัวเองที่ตอนนี้น่าจะโดนคนผิวเข้มขบกัดจนเป็นรอยไปหมดแล้วได้ตีตื้นขึ้นมา
“นี่เด็กดี ช่วยถอดกางเกงให้พี่หน่อยสิ”
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานเสียงทุ้มของคนผิวเข้มจะเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ตอนนี้เจ้าตัวก็ขยับถอยหลังออกไปนั่งเตรียมจะถอดกางเกงออกดังที่บอก ซึ่งยุนกิพอได้ยินแบบนั้นแล้วก็ค่อยๆพยักหน้ารับช้าๆ จนเส้นผมสีดำเข้มกระจัดกระจายเต็มผ้าปูที่นอนสีอ่อน ก่อนร่างบางๆจะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นมาช่วยคนผิวเข้มปลดตะขอกางเกงออกอย่างทุลักทุเลในขณะที่น้ำตาก็ยังไหลออกมาไม่ยอมหยุดแม้เจ้าตัวจะพยายามหยุดยังไงก็หยุดไม่ได้เสียทีแถมยังมีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินตลอด
เพราะแบบนั้นจึงทำให้แทฮยองหรือเจ้าตัวคนผิวเข้มนั้นต้องค่อยๆ ยื่นมือออกไปจับเชยคางของคนตัวเล็กที่กำลังสะอื้นอยู่มาจูบซับตรงมุมปากเบาๆก่อนจะค่อยๆเลื่อนไปคลอเคลียที่บริเวณริมฝีปากอย่างต้องการจะปลอบโยน และเมื่อคนตัวเล็กหยุดสะอื้นแล้วแทฮยองก็ค่อยๆละริมฝีปากออกมาจากเรียวปากเล็กเพื่อมาขบเม้มตรงบริเวณติ่งหูเบาๆ แทน ก่อนจะแกล้งเป่าลมใส่ใบหูอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ และนั่นจึงทำให้มือของมินยุนกิที่แต่แรกมันก็สั่นจนทำให้ปลดตะขอกางเกงได้อย่างลำบากอยู่แล้ว ในตอนนี้เหมือนมันจะสั่นจนปลดตะขอยากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
“ลืมถามไปเลยว่าเด็กน้อยคนนี้ชื่ออะไร”
ก่อนที่อยู่ดีๆ เสียงทุ้มต่ำของคนผิวเข้มจะเอ่ยถามประโยคคำถามออกมาอีกครั้ง โดยในขณะถามครั้งนี้มืออีกข้างของตัวเจ้าของเสียงทุ้มก็ค่อยๆ เลื่อนไปบีบคลึงก้อนกลมด้านหลังของคนตัวเล็กก่อนจะจับแหวกออกจนทำให้เสียงตอบคำถามของคนตัวเล็กต้องสั่นเครือและตะกุกตะกักขึ้นมาทันที
“ผม..อึก..ฮื่อ..ผม..ม—ไม่ใช่..ไม่ใช่เด็ก...นะ..”
“แต่ตอนนี้นายเหมือนเด็กมากเลยนะรู้มั้ย.. เหมือนเด็กน้อยขี้กลัวแต่ก็ทำเป็นปากเก่งและอวดดีน่ะ..”
แทฮยองพูดออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมาประกบจูบกับริมฝีปากของคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบาและเริ่มบดขยี้ภายหลัง จึงทำให้ฝ่ามือขาวของคนตัวเล็กที่เคยพยายามจะถอดกางเกงของคนตัวสูงออกในตอนแรกต้องรีบละออกและเปลี่ยนมาใช้เพื่อโอบกอดรอบลำคอหนาแทน
ก่อนที่หลังจากโอบกอดรอบลำคอหนาได้ไม่นาน มือเล็กที่แสนสั่นเทาจะค่อยๆ เลื่อนไปลูบไล้และจับสะเปะสะปะทั่วแผ่นหลังของคนผิวเข้มมั่วไปหมดเมื่อรสจูบเริ่มจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนยากเกินที่จะควบคุมความรู้สึกและหักห้ามใจเอาไว้ได้ ไหนจะมืออีกข้างของคนตัวสูงที่กำลังด้วยกันอยู่ที่ตอนนี้กำลังพยายามใช้นิ้วมือแทรกสอดเข้ามาในร่างกายอีก ..
ก่อนที่หลังจากโอบกอดรอบลำคอหนาได้ไม่นาน มือเล็กที่แสนสั่นเทาจะค่อยๆ เลื่อนไปลูบไล้และจับสะเปะสะปะทั่วแผ่นหลังของคนผิวเข้มมั่วไปหมดเมื่อรสจูบเริ่มจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนยากเกินที่จะควบคุมความรู้สึกและหักห้ามใจเอาไว้ได้ ไหนจะมืออีกข้างของคนตัวสูงที่กำลังด้วยกันอยู่ที่ตอนนี้กำลังพยายามใช้นิ้วมือแทรกสอดเข้ามาในร่างกายอีก ..
ดวงตาเรียวของคนตัวเล็กเริ่มสั่นไหวล่อกแล่กขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้ พร้อมเสียงครางร้องก็เริ่มดังออกมาจากลำคอขาวให้ได้ยินเบาๆ เมื่อในขณะที่ยุนกิพยายามจะถอนริมฝีปากของตัวเองออกมาเพื่อจะใช้หวีดร้องเนื่องจากกำลังรู้สึกทรมานแต่ก็ไม่อาจทำได้ เพราะท้ายทอยของตัวเองโดนคนผิวเข้มจับล็อกเอาไว้ซะแน่น
ร่างเล็กเริ่มสั่นไหวหนักขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมหางตาเรียวก็เริ่มมีน้ำไหลซึมออกมาอีกครั้ง เมื่อในตอนนี้จำนวนนิ้วในช่องทางที่แสนคับแคบจะค่อยๆ เริ่มเพิ่มขึ้นจำนวนมาทีละนิ้วๆจนครบสามในที่สุด ซึ่งทันทีที่ครบสามนิ้วเรียบร้อยแล้วความทรมานที่เกินจะต้านทานได้ไหวก็ทำเอาใบหน้าหวานรีบสะบัดออกอย่างเต็มแรง ก่อนเสียงกรีดร้องจะดังลั่นออกมาจากเรียวปากบวมช้ำอย่างน่าสงสาร พร้อมน้ำตาก็พากันหลั่งไหลออกมาจนเปียกปอนเต็มใบหน้าหวานอย่างน่าสงสารเช่นกัน
“พ..พี่แท...ฮื่อ..พี่แท..เจ็บ..ยุนกิเจ็บ..” เสียงห้าวที่ทั้งสั่นเครือและแหบพร่าของคนตัวเล็กพูดออกมาอย่างติดๆขัดๆ ก่อนที่หลังจากนั้นร่างเล็กจะเริ่มดิ้นพล่านด้วยความทรมานหนักกว่าเดิมเมื่อหลังจากที่ตนเองเอ่ยพูดแบบนั้นไปนอกจากคนผิวเข้มจะไม่ยอมถอนนิ้วออกไปอีกฝ่ายยังแกล้งหมุนควงและขยับอีก
“อะ..อึก..ฮื่อ”
มินยุนกิได้แต่ยื่นมือออกไปโอบกอดร่างคนตรงหน้าเอาไว้อย่างต้องการจะแนบชิดด้วยการใช้สองขาเรียวเกี่ยวรัดรอบเอวสอบเอาไว้ พร้อมใบหน้าหวานที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาก็รีบซุกลงไปที่แผงอกของคนตรงหน้าทันที
และเมื่อนิ้วเรียวยาวของคนผิวเข้มได้พบเข้าจุดกระสันในร่างกาย เสียงหวีดร้องที่แสนหลงของคนตัวเล็กก็ดังขึ้นมาให้ได้ยินอีกครั้ง ซึ่งเพราะความเจ็บนั่นเองจึงทำให้ยุนกิต้องเผลอใช้เล็บของตัวเองตะกายไปที่ผิวเนื้อของคนตรงหน้าอย่างเต็มแรง ก่อนหลังจากนั้นคนตัวเล็กจะเริ่มร้องไห้ออกมาหนักขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความเสียวซ่านที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกินต้านทาน จนทำให้เรียวปากเล็กต้องเผยอออกเล็กน้อยเพื่อช่วยหอบหายใจหลังจากต้องโดนคนผิวเข้มแกล้งใช้นิ้วเรียวยาวเน้นย้ำที่จุดกระสันซ้ำๆ จนในตอนนี้มินยุนกิรู้สึกตัวเองใกล้จะบ้าตายเต็มทน
“พี่แท..ม—ไม่เอา..ฮื่อ..ยุนกิไม่เอานิ้วแล้ว”
“หืม ? ตกลงว่าชื่อยุนกิเหรอเด็กน้อย ?”
แทนการตอบคำถามที่คนผิวเข้มเอ่ยถามออกมา ใบหน้าหวานของคนตัวเล็กก็รีบพยักรับซ้ำๆ ทันที จึงทำให้รอยยิ้มต้องปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคมของคนผิวเข้มเล็กน้อยเพราะกำลังรู้สึกว่าคนตัวเล็กด้านหน้าตัวเองตอนนี้กำลังน่ารัก น่ารังแกและก็น่าขย้ำเป็นที่สุด
“ชื่อน่ารักเหมือนหน้าตาเลย” ได้แต่พูดออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะเลื่อนริมฝีปากพรมจูบไปทั่วทั้งกรอบหน้าหวานที่ตอนนี้นอกจะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาแล้วก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลรินออกมาตามเส้นผมอีกด้วย ในขณะที่อีกมือนึงของแทฮยองก็ค่อยๆ เริ่มแกล้งขยับเข้าออกตรงช่องทางที่แสนคับแคบนั้นช้าๆ จนทำให้มินยุนกิต้องรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะบ้าตายมากกว่าเดิมอีก เพราะว่าตอนนี้ร่างกายของคนตัวเล็กมันรู้สึกต้องการมากกว่านั้น ..
คนที่ตอนนี้ผิวกายสีขาวได้ขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั่วทั้งตัวค่อยๆช้อนสายตาที่แสนจะออดอ้อนของตัวเองขึ้นมองสบตากับคนผิวเข้มตรงหน้าช้าๆ พร้อมเรียวปากอิ่มที่เบะคว่ำลงอย่างงอแง ซึ่งเพราะแบบนั้นทำให้แทฮยองที่เห็นต้องค่อยๆ
ใช้ปลายจมูกโด่งไล้สูดดมความหอมตามซอกคอขาวของคนที่กำลังทำหน้างอแงอยู่อย่างต้องการจะเอาใจในขณะที่นิ้วมือก็ยังขยับเข้าขยับออกไม่ยอมหยุด
“พี่แท..ฮึก—ฮื่อ...ย..ยุนกิ..พี่แท..พ..พี่แท..ไม่เอา...ยุนกิ ม—ไม่เอานิ้ว..ฮื่อ..อ..เอาออกไป..พี่แท...อ—อึก..”
“ใจเย็นๆสิครับ..
ตอนนี้ร่างกายของน้องแดงไปหมดทั้งตัวแล้วนะ มันกำลังดูดีสุดๆไปเลย.. ขอให้พี่ได้แกล้งน้องให้คุ้มกับเงินที่เสียไปหน่อยนะ..” เพราะคำสรรพนามที่แปลกๆไปที่ตัวเจ้าของเสียงทุ้มเลือกใช้ทำให้ตัวของคนฟังเมื่อได้ยินต้องรู้สึกเขินอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหลังจากนั้นไม่นานความเหนอะหนะจะเกิดขึ้นมาตรงบริเวณหน้าท้องของคนทั้งสองเมื่ออยู่ดีๆ ตรงบริเวณส่วนนั้นที่โป่งพองมานานของคนตัวเล็กก็ปลดปล่อยออกมาจนหมด
และโดยไม่รอช้าหลังจากคนตัวเล็กได้ปลดปล่อยออกมาเรียบร้อยแล้ว แทฮยองก็รีบถอนนิ้วมือทั้งสามนิ้วออกมาจากช่องทางคับแคบนั้นทันทีก่อนจะเลื่อนมาจับที่ไหล่ของคนตัวเล็กเอาไว้และออกแรงดันให้ร่างทั้งร่างนอนราบลงไปกับพื้นเตียงในขณะที่ตัวเองก็ตามไปประกบจูบไม่ยอมห่างก่อนจะรีบละออกมาเพื่อดึงรั้งกางเกงที่แสนจะเกะกะออกไป
และโดยไม่รอช้าหลังจากคนตัวเล็กได้ปลดปล่อยออกมาเรียบร้อยแล้ว แทฮยองก็รีบถอนนิ้วมือทั้งสามนิ้วออกมาจากช่องทางคับแคบนั้นทันทีก่อนจะเลื่อนมาจับที่ไหล่ของคนตัวเล็กเอาไว้และออกแรงดันให้ร่างทั้งร่างนอนราบลงไปกับพื้นเตียงในขณะที่ตัวเองก็ตามไปประกบจูบไม่ยอมห่างก่อนจะรีบละออกมาเพื่อดึงรั้งกางเกงที่แสนจะเกะกะออกไป
และเมื่อถอดกางเกงออกเรียบร้อยแล้ว แทฮยองก็เหลือบสายตามาเห็นว่าในตอนนี้คนตัวเล็กกำลังนอนหอบหายใจรวยรินหมดสภาพอย่างน่าเอ็นดู จนสุดท้ายก็รู้สึกอดไม่ไหวต้องโน้มใบหน้าลงมาคลอเคลียเล่นด้วยอีกครั้ง ซึ่งเพราะแบบนั้นจึงทำให้คนที่แต่แรกยังนอนหมดสภาพอยู่อย่างมินยุนกิต้องรีบยื่นมือขึ้นโอบกอดรอบลำคอหนาไว้อีกครั้งทันที ในขณะที่ใบหน้าหวานก็ค่อยๆ ซุกลงไปคลอเคลียที่แผงอกของคนผิวเข้มตรงหน้าอย่างต้องการจะออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ
"พี่แท..เมื่อไหร่จะทำยุนกิสักที"
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานเสียงอู้ๆอี้ๆของเจ้าลูกแมวตัวน้อยจะเอ่ยถามขึ้นมา จึงทำให้แทฮยองต้องยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากอย่างนึกถูกใจก่อนจะรีบสอดมือเข้าไปใต้แผ่นหลังบางและจับสลับให้คนตัวเล็กขึ้นมานั่งทับอยู่ด้านบนร่างกายตัวเองอย่างรวดเร็ว
"กำลังจะทำนี่ไงครับ" คนผิวเข้มที่ตอนนี้เปลี่ยนไปนอนอยู่ใต้ร่างของคนตัวเล็กพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่ดูแพรวพราวและแววตาที่เป็นประกาย และเพราะแบบนั้นจึงทำให้คนตัวเล็กเริ่มจะเข้าใจอะไรมากขึ้นกว่าเดิมทันที ..
ยุนกิรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของตัวเองถูกใช้งานคุ้มกับเงินที่ได้รับมากเกินไปแล้ว..
เสียงหวานได้ครางร้องออกมาเบาๆ หลังจากที่ร่างกายของตัวเองได้กลืนกินตัวตนของคนผิวเข้มเข้าไปเรียบร้อยแล้วและตอนนี้ก็กำลังพยายามบังคับสะโพกกลมของตัวเองให้ขยับขึ้นลงอยู่ มินยุนกิได้แต่ค่อยๆเชิดหน้าขึ้นช้าๆ ในขณะที่ดวงตาเรียวตอนนี้ก็ปรือปรอยไปหมดรวมไปถึงหัวสมองก็ขาวโพลนไปหมดเช่นกันเมื่ออยู่ดีๆ หลังจากตนเองขยับร่างกายไปได้สักพักเสียงครางที่แสนจะทุ้มต่ำที่บ่งบอกให้รู้ว่าตัวผู้ส่งเสียงครางออกมามีความสุขมากแค่ไหนได้ดังขึ้นมาให้ได้ยิน
และเพราะแบบนั้นจึงให้ยุนกิพยายามขยับสะโพกของตัวเองถี่รัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เหงื่อกาฬไหลย้อยออกมาท่วมตัวและเปียกชุ่มเส้นผมหนักขึ้นกว่าเดิม
และเพราะแบบนั้นจึงให้ยุนกิพยายามขยับสะโพกของตัวเองถี่รัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เหงื่อกาฬไหลย้อยออกมาท่วมตัวและเปียกชุ่มเส้นผมหนักขึ้นกว่าเดิม
“พ—พี่แท..ฮื่อ..มันเหนื่อย..”
การต้องออนท็อปแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย แต่ข้อดีหนึ่งเดียวที่ยุนกิชอบเวลาตนเองได้ออนท็อปก็คือ..
ถึงแม้ตนเองนั้นจะเป็นแค่ฝ่ายรับแต่ตนเองก็รู้สึกเหมือนควบคุมคู่นอนได้..
เพราะว่าเมื่อต้องอยู่ด้านบนแบบนี้ยุนกิสามารถรู้ว่าตนเองสามารถขยับแบบไหนและขยับด้วยความเร็วระดับไหนคนใต้ร่างถึงจะพอใจ โดยในตอนนี้ยุนกิค้นพบว่าเมื่อตนเองค่อยๆขยับช้าๆ เสียงครางของคนผิวเข้มจะฟังดูแหบพร่าและกระเส่าเซ็กซี่มากกว่าเดิมรวมถึงใบหน้าคมก็ดูทรมานเป็นพิเศษ แต่ถ้าหากตนเองขยับเร็วๆ เมื่อไหร่เสียงครางของผิวเข้มของคนผิวเข้มจะไม่ค่อยมีให้ได้ยินเพราะคนผิวเข้มคนเอาแต่ขบสันกรามตัวเองแน่นจนเส้นเลือดที่ลำคอปูดขึ้นมาเต็มไปหมด
อย่างเช่นตอนนี้...
มินยุนกิได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะรู้สึกคอแห้งเป็นผุยผงไปหมด มือเล็กๆอดไม่ได้ที่จะเลื่อนไปลูบไล้ตรงลำคอหนาของคนผิวเข้มอย่างหลงใหลก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนจังหวะการขยับเป็นเชื่องช้าแทน
คนร่างเล็กได้แต่ยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากอย่างชอบใจที่เห็นว่าปฏิกิริยาของคนผิวเข้มเปลี่ยนไปตามการขยับของตัวเองแทบทุกครั้ง จนทำให้คนตัวเล็กเหมือนจะลืมไปว่าความจริงแล้วคู่นอนของตัวเองก็ร้ายใช่ย่อย..
อย่างเช่นตอนนี้...
มินยุนกิได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะรู้สึกคอแห้งเป็นผุยผงไปหมด มือเล็กๆอดไม่ได้ที่จะเลื่อนไปลูบไล้ตรงลำคอหนาของคนผิวเข้มอย่างหลงใหลก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนจังหวะการขยับเป็นเชื่องช้าแทน
คนร่างเล็กได้แต่ยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากอย่างชอบใจที่เห็นว่าปฏิกิริยาของคนผิวเข้มเปลี่ยนไปตามการขยับของตัวเองแทบทุกครั้ง จนทำให้คนตัวเล็กเหมือนจะลืมไปว่าความจริงแล้วคู่นอนของตัวเองก็ร้ายใช่ย่อย..
ในขณะที่กำลังรู้สึกสนุกกับการควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของคนใต้ร่างอยู่นั้น คนตัวเล็กก็ต้องครางร้องระงมออกมาเสียงหลงทันที เมื่ออยู่ดีๆ สะโพกกลมของตัวเองก็ถูกมือหนาของคนใต้ร่างเลื่อนมาจับบังคับให้ขยับขึ้นลงด้วยความเร็วระดับที่มากขึ้นกว่าเดิมโดยไม่ทันตั้งตัว และเพราะแบบนั้นทำร่างของคนตัวเล็กที่ตอนแรกก็สนุกสนานและได้ใจอยู่ค่อยๆ เอนซบลงไปกับแผงอกกว้างของคนผิวเข้มอย่างหมดแรง ในขณะที่ริมฝีปากก็เอาแต่ไล่จูบตรงบริเวณแผงอกกว้างมั่วไปหมด
จึงทำให้แทฮยองที่หลังจากปล่อยให้คนตัวเล็กได้สนุกสนานอยู่กับการที่ตัวเองได้อยู่ออนท็อปจนพอใจ ต้องรีบออกแรงจับพลิกร่างบางของคนตัวเล็กให้ลงมาอยู่ใต้ร่างของตนเองอีกครั้งทันที พร้อมกับเริ่มการกระแทกให้รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนมินยุนกิต้องส่งเสียงร้องออกมาเสียงหลงอีกครั้งพร้อมมือก็เอาแต่โอบกอดรอบลำคอเอาไว้แน่นเช่นเดียวกับสองขาที่เกี่ยวรอบเอวสอบเอาไว้แน่นเช่นกัน
ก่อนที่อยู่ดีๆ ในขณะที่กำลังโดนคนผิวเข้มถาโถมและกระแทกร่างกายเข้าใส่อย่างรุนแรงแบบนี้ ตรงส่วนอ่อนไหวของคนตัวเล็กที่ตอนนี้มันกำลังเริ่มโป่งพองขึ้นมาใหม่ก็ต้องโดนมือหนาของคนผิวเข้มยื่นมาจับรูดรั้งอย่างเอาแต่ใจ จนทำให้ใบหน้าหวานของคนตัวเล็กต้องรีบส่ายปฏิเสธเป็นพัลวัน
“พ—พี่...พี่แท..ฮื่อ..”
ซึ่งหากจะถามว่าการมีเซ็กส์ครั้งไหนที่ตัวเองรู้สึกทรมานมากที่สุด ถ้าเป็นเมื่อก่อนยุนกิคิดว่าตัวเองคงตอบเซ็กส์ครั้งแรกเมื่อตอนที่ตัวเองอายุแค่สิบเจ็ดปีทรมานมากที่สุด เพราะว่าตอนนั้นเป็นครั้งแรกแถมตัวเองก็ยังไม่ค่อยรู้อะไร
เลือดก็เลยไหลออกมาจนเปื้อนเต็มผ้าปูที่นอนไปหมดแถมกว่าใช้เวลาตั้งนานกว่าจะกลับมาเดินได้อย่างคนปกติ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ เวลานี้ เดี๋ยวนี้ มินยุนกิก็คงต้องตอบว่าเซ็กส์ครั้งนี้นี่แหละทรมานมากที่สุด..
แต่ถึงแม้มันจะทรมานยังไงแต่ยุนกิกลับกำลังเริ่มรู้สึกดีกับเซ็กส์ครั้งนี้ขึ้นมาช้าๆ จนนอกจากจะยกให้เป็นเซ็กส์ที่ทรมานที่สุดแล้วยุนกิก็อยากที่จะยกให้มันเป็นเซ็กส์ที่ดีที่สุดด้วย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาจนเกือบจะโชกโชนยุนกิรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองไม่เคยตอบสนองและต้องการใครมากและดีขนาดนี้มาก่อนเลย แถมยุนกิยังคาดไม่ถึงด้วยว่าตัวเองจะเป็นพวกที่ชื่นชอบและนิยมอะไรแบบนี้ถ้าหากไม่ได้มีเซ็กส์กับผู้ชายคนนี้ก็คงไม่รู้เลยจริงๆ ..
"พี่แท..ทำแรงๆ..อึก—ทำยุนกิแรงๆ..ก..กว่านี้..ทำรุนแรงมากกว่านี้..ด..ได้—ได้เลย..ฮื่อ..ยุนกิ..ชอบ..พ—พี่แท.."
"หืม..ชอบเหรอเด็กน้อย ?"
"อึก..อื่อ...ชอบ..ยุนกิชอบ..พี่แทช่วย..ท—ทำแรงๆ กว่า..อึก..กว่านี้..ม..ไม่ได้เหรอ.."
"อา..แค่นี้ยังแรงไม่พออีกเหรอ อึก..ม..ไม่กลัวเจ็บเหรอไง ?"
"ม..ไม่เจ็บ..ไม่เจ็บเลย ข..ขอร้อง..พี่แท....ช..ช่วย...ฮื่อ..ช่ว— ร..แรงกว่านี้..อ๊า!"
"หืม..ชอบเหรอเด็กน้อย ?"
"อึก..อื่อ...ชอบ..ยุนกิชอบ..พี่แทช่วย..ท—ทำแรงๆ กว่า..อึก..กว่านี้..ม..ไม่ได้เหรอ.."
"อา..แค่นี้ยังแรงไม่พออีกเหรอ อึก..ม..ไม่กลัวเจ็บเหรอไง ?"
"ม..ไม่เจ็บ..ไม่เจ็บเลย ข..ขอร้อง..พี่แท....ช..ช่วย...ฮื่อ..ช่ว— ร..แรงกว่านี้..อ๊า!"
เพราะอยู่ดีๆ คนตัวเล็กก็ร้องขอออกมาจึงทำให้ความตั้งใจที่จะยั้งไม้ยั้งมือเพราะกลัวคนตัวเล็กที่ไม่ชินกับอะไรแบบนี้จะระบมในตอนแรกของแทฮยองมลายหายไปหมดสิ้นทันที และรีบเปลี่ยนกลับมากระแทกใส่ร่างกายของคนตัวเล็กรุนแรงเหมือนเดิม แถมดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเสียงขาเตียงเริ่มจะดังลั่นเอี๊ยดอ๊าดให้ได้ยิน
ก่อนอยู่ดีๆ เมื่อเริ่มรู้สึกไม่ต้องกลัวไม่ต้องเกรงใจอะไรร่างกายของคนตัวเล็กแล้วเพราะเห็นว่าคนตัวเล็กน่าจะเป็นคนประเภทเดียวกันกับตัวเอง แทฮยองก็ตัดสินใจค่อยๆ หยุดมือที่กำลังจับส่วนอ่อนไหวของคนตัวเล็กรูดรั้งอยู่ลงทันที พร้อมกับแกล้งใช้นิ้วมือหัวแม่มือกดทับเอาไว้พร้อมกับออกแรงกระแทกจากที่แต่เดิมมันน่าจะแรงมากที่สุดแล้วมันกลับสามารถแรงและถี่รัวเร็วหนักกว่าเดิมได้อีกจนทำให้เสียงครางร้องของคนตัวเล็กดังออกมาระงม
แทฮยองตัดสินใจค่อยๆโน้มใบหน้าคมของตัวเองลงมาขบกัดตามซอกคอของคนตัวเล็กไม่ยอมหยุดจนทำเอาคนตัวเล็กอย่างมินยุนกิต้องร้องไห้ออกมาทันทีเพราะความรู้สึกตอนนี้มันตีวนกันมั่วไปหมดจนไม่อาจรู้ได้ว่าตอนนี้ควรรู้สึกยังไง ไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบกันแน่
ก่อนอยู่ดีๆ เมื่อเริ่มรู้สึกไม่ต้องกลัวไม่ต้องเกรงใจอะไรร่างกายของคนตัวเล็กแล้วเพราะเห็นว่าคนตัวเล็กน่าจะเป็นคนประเภทเดียวกันกับตัวเอง แทฮยองก็ตัดสินใจค่อยๆ หยุดมือที่กำลังจับส่วนอ่อนไหวของคนตัวเล็กรูดรั้งอยู่ลงทันที พร้อมกับแกล้งใช้นิ้วมือหัวแม่มือกดทับเอาไว้พร้อมกับออกแรงกระแทกจากที่แต่เดิมมันน่าจะแรงมากที่สุดแล้วมันกลับสามารถแรงและถี่รัวเร็วหนักกว่าเดิมได้อีกจนทำให้เสียงครางร้องของคนตัวเล็กดังออกมาระงม
แทฮยองตัดสินใจค่อยๆโน้มใบหน้าคมของตัวเองลงมาขบกัดตามซอกคอของคนตัวเล็กไม่ยอมหยุดจนทำเอาคนตัวเล็กอย่างมินยุนกิต้องร้องไห้ออกมาทันทีเพราะความรู้สึกตอนนี้มันตีวนกันมั่วไปหมดจนไม่อาจรู้ได้ว่าตอนนี้ควรรู้สึกยังไง ไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบกันแน่
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานคนตัวเล็กจะรู้สึกวูบไปเล็กน้อยเมื่อความอึดอัดส่วนนั้นอยู่ดีๆก็โดนถอดถอนออกไปพร้อมคราบคาวที่ล้นทะลักออกมา พร้อมกับมือหนาของผิวเข้มก็เริ่มกลับมาจับขยับตรงส่วนอ่อนไหวอีกสองสามทีจนในที่สุดยุนกิก็ปลดปล่อยตามออกมาหลังจากโดนปิดกลั้นมานานอย่างไม่รอช้า
"เป็นไงบ้าง ..ชอบหรือเปล่า ?"
เมื่อเสียงทุ้มของคนผิวเข้มเอ่ยถามออกมามินยุนกิก็รีบพยักหน้ารับทันที ก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาดึงโน้มร่างของคนตรงหน้าลงมานอนข้างๆกายตัวเองและวาดวงแขนโอบกอดเอาไว้ในขณะที่ร่างกายของตัวเองก็รีบซุกเข้าไปหาเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังอ้อนเจ้าของอยู่
และทันทีที่คนผิวเข้มวาดวงแขนกอดกลับมาก็เหมือนยุนกิจะรับรู้แล้วว่าค่ำคืนนี้ของตัวเองคงจะหาที่สิ้นสุดไม่ได้แน่นอน เมื่อแววตาคมของคนที่ขยับตัวนอนตะแคงจ้องมองมาที่ตัวเองเหมือนจะสื่อให้รู้ว่ากิจกรรมรักที่ผ่านมามันยังไม่คุ้นค่าตัวเลย แถมส่วนอ่อนไหวของคนผิวเข้มก็เริ่มจะถูไถมาที่ต้นขาของคนตัวเล็กอีกแล้ว
"เป็นไงบ้าง ..ชอบหรือเปล่า ?"
เมื่อเสียงทุ้มของคนผิวเข้มเอ่ยถามออกมามินยุนกิก็รีบพยักหน้ารับทันที ก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาดึงโน้มร่างของคนตรงหน้าลงมานอนข้างๆกายตัวเองและวาดวงแขนโอบกอดเอาไว้ในขณะที่ร่างกายของตัวเองก็รีบซุกเข้าไปหาเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังอ้อนเจ้าของอยู่
และทันทีที่คนผิวเข้มวาดวงแขนกอดกลับมาก็เหมือนยุนกิจะรับรู้แล้วว่าค่ำคืนนี้ของตัวเองคงจะหาที่สิ้นสุดไม่ได้แน่นอน เมื่อแววตาคมของคนที่ขยับตัวนอนตะแคงจ้องมองมาที่ตัวเองเหมือนจะสื่อให้รู้ว่ากิจกรรมรักที่ผ่านมามันยังไม่คุ้นค่าตัวเลย แถมส่วนอ่อนไหวของคนผิวเข้มก็เริ่มจะถูไถมาที่ต้นขาของคนตัวเล็กอีกแล้ว
ฮือออออออออออออออออออออออออออ ยังไม่จบนะ กลับไปอ่านต่อในเว็บได้เลย ฮืออออออออออออออออออไม่ไหวแล้วจะตายยยยยยยยยยยยย : https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1562855&chapter=9
