วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

cut - be quiet ! (10)












adult zone 
























“ไม่ต้องห่วงนะครับแค่รอบเดียวเอง.. เพราะยังไงยุนกิก็ต้องทำงานต่อไม่ใช่เหรอครับ”    





“แต่ว่า..ม—มัน..”







“นะครับ..แค่รอบเดียวเอง...แทสัญญาว่าจะไม่ทำให้ยุนกิไข้ขึ้นเด็ดขาด...นะครับ..”   พูดออกมาก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือต่ำลงไปเรื่อยๆ และแกล้งลูบมือไปที่บริเวณส่วนนั้นของคนตัวเล็กเบาๆจนเกิดเสียงครางฮือดังขึ้นมา    รอยยิ้มที่ดูร้ายกาจปรากฏขึ้นมาให้เห็นที่มุมปากก่อนแทฮยองจะแกล้งขย้ำมือของตัวเองลงไปเต็มแรงจนทำเอาร่างเล็กต้องหวีดร้องเสียงหลงออกมาอย่างน่าสงสารพร้อมมือเล็กก็เลื่อนขึ้นโอบกอดรอบลำคอหนาเอาไว้อีกครั้ง








“ท—แท..ฮื่อ..ม..มันอึก—มัน..อ๊า!




“แท...ม—ไม่เอา...อะ..ล—แล้ว..อย่า..ย—อย่า..ทำแบบนี้..ฮ—ฮึก...อย่าแกล้ง...อ๊ะก—กัน..ฮื่อ..กัน..บ—แบบนี้..”   เสียงแหบห้าวที่สั่นเครือเพราะแรงอารมณ์ได้แต่พูดออกมาอย่างไม่เป็นภาษาในขณะที่ใบหน้าหวานที่ตอนนี้ได้ซบลงไปที่ลาดไหล่กว้างก็ส่ายไปมาด้วยความทรมาน





“พอแล้ว...ฮื่อ..พ—พอได้แล้ว..จะทำอะ...ไร...ก—ก็ทำ...อื้อ..ท-ทำได้เลย..” 








และแน่นอนว่าทันทีที่สิ้นสุดคำพูดนั้นที่คนตัวเล็กพูดออกมา  มือหนาของแทฮยองที่กำลังจับขย้ำส่วนนั้นของคนตัวเล็กให้ทรมานเล่นๆอยู่ก็รีบเลื่อนไปจับรูดซิปกางเกงของคนตัวเล็กออกทันที ก่อนจะดึงมันลงมากองตรงข้อเท้าเล็กๆพร้อมกับซับในสีขาวที่เขาดึงมันลงมาพร้อมกันอย่างรวดเร็ว



ได้แต่ค่อยๆยกมือขึ้นมาจับเชยคางเจ้าของดวงหน้าหวานให้เงยออกมาจากลาดไหล่ของตัวเองช้าๆ    แทฮยองค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปจูบซับคราบน้ำตาที่ติดอยู่ตรงหางตาของคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา   และระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าในตอนนี้ดวงหน้าหวานกำลังเบะเหมือนอยากจะร้องไห้ 

    








“ทำตรงนี้แล้วกันนะครับ”   








แต่แทฮยองก็ไม่ได้คิดจะกล่าวปลอบใจคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย   ร่างสูงได้แต่ละออกมาจากร่างเล็กที่ตัวเองโอบกอดอยู่เมื่อครู่นี้และเดินไปทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ทำงานที่คนตัวเล็กนั่งอยู่ในตอนแรกแทน     กางเกงนักศึกษารวมไปถึงกางเกงซับในได้ถูกถอดออกไปกองอยู่ที่ข้อเท้าอย่างรวดเร็วก่อนแทฮยองจะค่อยๆใช้มือตบไปที่หน้าขาของตัวเองเบาๆ  ในขณะที่แววตาคมก็จ้องมองไปยังคนตัวเล็กที่กำลังยืนนิ่งเงียบอยู่








ด้านมินยุนกิที่พอเห็นแบบนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าแทฮยองกำลังเรียกให้ตัวเองไปนั่งลงที่ตัก    ใบหน้าหวานได้แต่เห่อร้อนขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมริมฝีปากบางก็ถูกกัดจนห้อเลือดเพราะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแปลกๆ และมันจะเป็นแบบนี้ทุกทีที่ก่อนจะมีอะไรกัน  ก่อนสุดท้ายจะตัดสินใจค่อยๆก้าวเท้าเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่ตักของคนผิวเข้มอย่างกล้าๆกลัวๆ    และคนตัวเล็กก็รู้ว่าตัวเองจะระเบิดตายในตอนที่ขยับสะโพกนั่งลงไปบนตักนั่นแล้ว อวัยวะส่วนนั้นของตนเองกับแทฮยองก็ได้เสียดสีสัมผัสโดนกันทันที








แทฮยองได้แต่นั่งมองดูเจ้าลูกแมวที่กำลังสั่นไปทั้งร่างด้วยความหวาดกลัวอย่างนึกเอ็นดูและอดไม่ได้ที่จะพูดแซวออกไป








“มีอะไรกันมาก็นับครั้งไม่ถ้วนแล้วจะต้องกลัวอีกเหรอ ?”




“หุบปากไปเล—อื้อ!!






โดยไม่เปิดโอกาสให้คนตัวเล็กได้โต้เถียงหรือโต้แย้งใดๆออกมา  แทฮยองก็จับขย้ำเข้าที่ท้ายทอยของคนตัวเล็กและดันให้ใบหน้าหวานโน้มลงมาเพื่อรับจูบจากตัวเองทันที      และถึงแม้ว่ากลิ่นและรสชาตินิโคตินจะยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากของคนตัวสูงอยู่แค่จางๆ เท่านั้นแต่มันก็สามารถทำให้ยุนกิรีบจูบตอบกลับเพื่อจะช่วงชิมเอาความขมที่ตัวเองชื่นชอบจากริมฝีปากของคนตัวสูงได้ไม่ยาก
ได้แต่ยกมือขึ้นไปโอบกอดรอบลำคอของคนตัวสูงเอาไว้และค่อยๆปรับเอียงใบหน้าของตัวเองเพื่อให้จูบได้ถนัด     และในตอนที่แทฮยองค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกมา    ดวงตาหวานที่ฉ่ำเชื่อมไปด้วยแรงอารมณ์และความต้องการของคนตัวเล็กก็ได้แต่มองตามกลีบปากสีแดงสดของคนที่เพิ่งจะถอนริมฝีปากออกไปด้วยความเว้าวอนทันที 










“ท—แทฮยอง...ข—ขอจูบ..ขอจูบต่อ..อ-อีกไม่ได้เหรอ..”    เรียวปากเล็กได้แต่ขยับพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะในตอนนี้ยุนกิรู้สึกว่าลำคอของตัวเองมันแห้งจนแทบเป็นผุยผง

และเรียวปากนั้นอดไม่ได้ที่จะเบะลงเมื่อเห็นว่าใบหน้าคมค่อยๆส่ายไปมาช้าๆ แทนการตอบคำถามที่เพิ่งถามไป







“รีบๆทำให้เสร็จกันดีกว่านะครับ ยุนกิจะได้ทำงานต่อ”  เสียงทุ้มต่ำได้พูดออกมาก่อนจะค่อยๆขยับมือของตัวเองไปจับที่เอวคอดบางของคนตัวเล็กเอาไว้และค่อยๆจับยกขึ้นช้าๆ เพื่อจะได้เอาส่วนที่มันกำลังอึดอัดและทรมานของตัวเองสอดแทรกเข้าไปในช่องทางบอบบางช่องทางนั้นได้ถนัด


และเพราะแบบนั้นทำให้ดวงตาเรียวรีของยุนกิต้องเปิดกว้างด้วยความตกใจทันทีเมื่อเห็นว่าในคนผิวเข้มกำลังที่จะเริ่มทำมันโดยไม่คิดเปิดทางให้กับช่องทางของเขาก่อนเลย







“ท—แทฮยอง..ด—เดี๋ยว!! เดี๋ยวก่—อะ..อ๊า!”  เสียงห้าวที่กำลังจะร้องท้วงถึงกับต้องร้องเสียงหลงออกมาทันทีเมื่อค้นพบว่าช่องทางนั้นของตัวเองกำลังโดนอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญเกินไปพยามจะรุกล้ำเข้ามา




เสียงสูดปากได้ดังออกมาจากคนผิวเข้มที่ตอนนี้รู้สึกเสียวซ่านปนอึดอัดเพราะช่องทางของคนตัวเล็กกำลังตอดรัดเอาไว้เสียแน่นทั้งๆที่เพิ่งจะเข้าไปได้แค่ครึ่งเท่านั้น







“อายุนกิครับ..อา...ผ่อนคลายหน่อยสิ..ทำแบบนี้มันทำให้แท..อะทรมานกว่าเดิมนะรู้มั้ย..”   พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกระเส่าเพราะตอนนี้ตัวเองกำลังโดนช่องทางนั้นบีบรัดอยู่    ได้แต่ค่อยๆ ยกมือข้างนึงขึ้นมาเพื่อปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของคนตัวเล็กออกทีละเม็ดๆ  จนมันสามารถแหวกออกและร่นลงไปกองอยู่บริเวณข้อศอกได้
ซึ่งแทฮยองตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้แหละ ..  ดูเซ็กซี่ดีจะตาย..







ด้านยุนกิพอได้ยินแทฮยองพูดออกมาแบบนั้นแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที  จึงได้แต่ใช้สายตาที่เหมือนลูกแมวเพิ่งหัดขู่ครั้งแรกจ้องเขม็งไปที่ตัวคนพูดอย่างไม่พอใจ











“ก็แล้วทำไมมันเปิดทางเหมือนๆทุกทีก่อนล่ะ!!







“ก็แทเห็นว่าทำบ่อยๆแล้วมันน่าจะปรับตัวได้แล้วไงล่ะครับ ไม่คิดว่ามันจะยังอึดอัดอยู่เลย”   พูดออกมาพร้อมกับพยายามดันเข้าไปให้สุดทำให้เสียงหวีดร้องดังออกมาจากเรียวปากเล็กทันที    







และแทฮยองก็คิดว่าคงเป็นเพราะการที่ร่างกายของยุนกิมันเป็นแบบนี้นี่แหละ   ไม่ว่าจะมีอะไรกันมากี่ครั้งก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนครั้งแรกเสมอจนทำให้หลงจนโงหัวจะไม่ขึ้นอยู่แล้ว







 ด้านมินยุนกิเองก็ได้แต่ยกมือขึ้นไปทุบลงที่ลาดไหล่ของคนผิวเข้มที่พยายามจะดึงดันเข้ามาจนสุดพร้อมทั้งโวยวายออกมาด้วยความโมโห










  
“พ—พอ!! แทฮยอง!! พอได้..ล—อ๊ะ!..แล้ว..มันเจ็บนะ!”   เสียงร้องโวยวายดังขึ้นมาพร้อมๆกับน้ำตาก็เริ่มจะไหลรินออกมาจนเปียกปอนไปทั่วทั้งใบหน้า   ยุนกิเริ่มที่จะร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้แทฮยองถึงกับใจเสียทันทีเพราะไม่คิดว่าเจ้าลูกแมวจะร้องไห้ออกมาหนักขนาดนี้








“ไหนบอกว่าจะทำเบาๆไง..ไหนบอกว่ากลัวไข้ขึ้นอีกรอบไง..ฮึก..ไอ้บ้าแทฮยองไอ้คนโกหก!”  เสียงห้าวพูดออกมาอย่างสั่นเครือพร้อมใบหน้าหวานที่ตอนนี้มันเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาก็ค่อยๆซบลงไปที่ลาดไหล่กว้างช้าๆ ก่อนจะสะอื้นร้องไห้ออกมาจนตัวโยนอย่างน่าสงสารทำให้แทฮยองรู้สึกผิดทันทีที่ทำอะไรไปโดยไม่ทันคิดจนเหมือนจะผิดคำพูดกับคนตัวเล็กจึงได้แต่ค่อยๆ จูบปลอบไปที่ขมับของเจ้าลูกแมวที่กำลังร้องไห้อยู่เบาๆ  ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวอย่างต้องการปลอบประโลมพร้อมทั้งริมฝีปากหยักก็ขยับพูดประโยคหนึ่งออกมาที่ทำให้ร่างบางที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หยุดร้องไปโดยทันที










“แทขอโทษนะครับ.. เดี๋ยวแทขอไถ่โทษด้วยจูบแล้วกันนะครับ” 








มินยุนกิก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของคนที่พูดช้าๆ    ก่อนจะรีบยื่นมือทั้งสองข้างของตัวเองที่กำลังสั่นเทาไปประคองใบหน้าคมเอาไว้ช้าๆ และค่อยๆประกบจูบลงไปอย่างลึกซึ้งแบบที่ตนเองต้องการและโหยหา   ลิ้นนุ่มเล็กได้ซุกซนไปทั่วทั้งโพรงปาก โดยตัวเจ้าของโพรงปากอย่างแทฮยองเองก็ไม่คิดที่จะขัดใจหรือส่งเรียวลิ้นของตัวเองออกไปรบกวนหรือขัดขวาง







และแทฮยองก็ได้อาศัยจังหวะนี้ที่คนตัวเล็กกำลังเบี่ยงเบนความสนใจไปกับสิ่งอื่นพยายามที่จะสอดใส่เข้าไปเรื่อยๆ      และถึงแม้ว่ายุนกิจะรับรู้ได้ถึงความอึดอัดที่กำลังพยายามดึงดันเข้ามาในร่างกายของตัวเองช้าๆ  แต่คนตัวเล็กก็ไม่อาจที่จะทำอะไรได้เลยเพราะในตอนนี้ร่างกายของตัวเองกำลังโดนปลุกปั่นและคุกคามแทบทุกวิถีทาง จนทำให้รู้สึกหัวหมุนไปหมดจะอ้าปากร้องหรือโวยวายก็ทำไม่ได้




กายเล็กได้แต่บิดเร้าด้วยความทรมานเมื่อยอดทั้งสองข้างของตัวเองในตอนนี้กำลังโดนปลายนิ้วเรียวยาวหยอกล้อไม่หยุด   เสียงครางเครือเพราะความทรมานที่ผสมปนเปไปกับความสุขสมได้ดังออกมาจากในลำคอขาวไม่ขาดสาย     และในเวลาไม่นานแทฮยองก็สามารถสอดใส่ความอึดอัดของตัวเองเข้าไปในร่างกายของคนตัวเล็กได้หมด    โดยทันทีที่ความอึดอัดของตัวเองถูกกลืนกินจนหมดแทฮยองก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งยกสะโพกตัวเองสวนขึ้นไปทันทีจนทำให้เกิดเสียงหวีดร้องผิดคีย์ดังออกมาจากลำคอขาว









แทฮยองค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ ก่อนจะไล้ริมฝีปากของตัวเองลากลงต่ำมาเรื่อยๆ  ตั้งแต่ปลายคางผ่านมาถึงลำคอและไล้ต่ำลงมาจนถึงแผงอกขาว   เรียวปากบางอ้าออกช้าๆ ก่อนจะครอบครองยอดอกที่กำลังชูชันอยู่ในโพรงปากและใช้เรียวลิ้นหยอกล้อมันสร้างความวาบหวามให้คนตัวเล็ก       






มินยุนกิได้แต่บิดเร้าร่างกายของตัวเองด้วยความทรมานและเผลอแอ่นหน้าอกเข้าหาคนผิวเข้มที่กำลังกลืนกินยอดอกของตัวเองอย่างนึกลืมตัว    เสียงครางที่ฟังดูไพเราะยังดังขึ้นมาให้ได้ยินเรื่อยๆ ก่อนที่อยู่ดีๆ กายบางนั้นจะกระตุกเกร็งและยุนกิก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เปรอะเปื้อนหน้าท้องของตัวเอง










“อะไรกัน.. ยังไม่ได้ทำอะไรเลยทำไมเสร็จแล้วล่ะ”    แทฮยองที่เพิ่งจะละริมฝีปากออกมาจากยอดอกของคนตัวเล็กพูดออกมาอย่างจงใจจะหยอกล้อ   พร้อมกับแกล้งยื่นมือไปจับมือขาวๆ ของคนตัวเล็กที่วางพาดอยู่บนไหล่ของตัวเองออกมาและใช้ก้านนิ้วเรียวของคนตัวเล็กปาดเอาคราบคาวสีขาวขึ้นมา  
 แทฮยองค่อยๆแลบลิ้นออกมาเล็มเลียคราบขาวที่ตอนนี้มันเปรอะเปื้อนเต็มก้านนิ้วเรียวยาวของคนตัวเล็กช้าๆ ราวกับเป็นของหวาน    ทำให้ตัวเจ้าของนิ้วอย่างยุนกิรู้สึกเขินอายแทบจะทันทีและไม่สามารถที่จะทนมองต่อไปได้จึงต้องก้มหน้าหลบ



แต่ทันทีที่เห็นว่าเจ้าของดวงหน้าหวานกำลังก้มหน้าหลบแทฮยองจึงใช้ก้านนิ้วเรียวก้านเดิมที่ตัวเองเลียไปเมื่อครู่นี้ปาดเอาคราบคาวขึ้นมาอีกครั้งโดยคราวนี้ได้ส่งปลายนิ้วไปให้ตัวเจ้าของแทน





ยุนกิได้แต่มองดูนิ้วเรียวของตัวเองที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบคาวสีขาวสลับกับมองใบหน้าของแทฮยองด้วยความตกใจ  ก่อนสุดท้ายจะรู้สึกแพ้ทางสายตาคมที่แสนจะยั่วยุที่แทฮยองใช้จ้องมองมาจึงได้แต่ค่อยๆเผยอปากของตัวเองออกมาช้าๆ และแลบลิ้นออกมาเลียมันเหมือนกับที่คนตัวสูงทำให้ดูในตอนแรก









แต่เพียงแค่ว่าเวลาที่คนตัวเล็กทำแล้วมันดูเซ็กซี่กว่าที่คนตัวสูงทำเยอะเลย




มันเซ็กซี่จนอยากจะจับขยี้ให้แหลกคามือไปเลย ..









แทฮยองได้แต่ลากลิ้นร้อนผ่านริมฝีปากของตัวเองช้าๆ ในขณะที่มองดูการกระทำที่คนตัวเล็กกำลังทำอยู่    ก่อนจะเริ่มรู้สึกปวดหนึบตรงส่วนนั้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกตอนนี้


แค่ทำท่าทางแบบนี้เขาก็จะคลั่งตายแล้ว  แต่นี่คนตัวเล็กดันทำไปพร้อมกับช้อนสายตาที่มันปรือปรอยมองเขาไปด้วยทำไปด้วยอีก









ให้ตายเถอะ ..มันจะเกินไปแล้วนะมินยุนกิ 

ทำไมยิ่งนานวันก็ยิ่งทำตัวให้น่าขยี้ได้ขนาดนี้นะ ..










เรียวปากเล็กได้แต่เผยอค้างไว้อย่างนั้นพร้อมดวงตาหวานก็ได้แต่มองตามปลายนิ้วของตัวเองที่อยู่ดีๆ ก็โดนคนตัวสูงดึงออกจากปาก แทฮยองค่อยๆจับดึงมือของคนตัวเล็กให้กลับมาคล้องอยู่ที่คอของตัวเองอีกครั้ง  ก่อนจะยื่นใบหน้าคมไปกระซิบข้างๆใบหูของคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าเต็มทน







“ยุนกิอา..  ขยับสิครับ...”




สิ้นสุดคำพูดนั้นเจ้าของดวงหน้าหวานที่ตอนนี้ดูมึนงงและไร้ซึ่งสติก็ค่อยๆ พยักขึ้นลงช้าๆ  ก่อนจะค่อยๆเริ่มขยับตัวตามที่เจ้าของโทนเสียงทุ้มต่ำบอก    
เสียงหวีดร้องดังออกมาเบาๆ จากเรียวปากเล็กเพราะรู้สึกเจ็บและอึดอัดเนื่องจากขนาดของสิ่งนั้นที่มันค่อนข้างจะใหญ่เกินไปหน่อย   การขยับได้เป็นไปอย่างฝืดเคืองจนแทบจะขาดใจ   






"อึก..ท--แท...ม-มันแน่น..."






"ครับ..มันแน่น..อา..ใช่..มันแน่นไปหมดเลย... แทอึดอัดจะแย่แล้ว" แทฮยองได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสุขสมเต็มที มือหนาได้แต่ยื่นไปประคองสะโพกกลมมนและช่วยจับขยับให้จนทำให้เจ้าของสะโพกกลมมนต้องหวีดร้องออกมาอีกครั้งเพราะว่าแทฮยองกำลังจับขยับให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเอง   ซึ่งมันเร็วเอาเสียมากๆ






 มินยุนกิได้แต่ใช้ฟันคมซี่เล็กขบกัดไปที่ริมฝีปากด้านล่างของตัวเองอย่างต้องการจะสะกัดกั้นอารมณ์เอาไว้เพราะกลัวว่ามันอาจลุกโชนขึ้นมาหนักกว่าเดิมเพราะแทฮยองนั้นเอาแต่ส่งเสียงครางทุ้มต่ำและเรียกชื่อของเขาออกมาไม่ยอมหยุด






“อ—อะ..อ่า..”   แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจจะทนไหว





ตัวเล็กได้แต่ส่งเสียงครางตามออกมาเบาๆ ดังขึ้นสลับกับเสียงครางทุ้มต่ำของแทฮยอง     กายเล็กได้แต่ขยับขึ้นลงจนเหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า   การสอดประสานยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและชัดเจน  มินยุนกิสัมผัสได้ถึงทุกจังหวะการผลุบเข้าผลุบออกของสิ่งนั้นได้อย่างชัดเจน       
และยุนกิก็อดไม่ได้ที่จะปรายสายตาไปมองดูเจ้าของเสียงครางทุ้มต่ำช้าๆ  เพราะอยากรู้ว่าในตอนนี้อีกฝ่ายกำลังแสดงสีหน้าออกมายังไง      ก่อนที่ยุนกิจะรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่คิดอยากเห็นสีหน้าของแทฮยองในเวลานี้
        
             เพราะลำพังแค่เสียงครางทุ้มต่ำแบบนั้นก็ทำเอาแทบตายแล้ว   แต่พอมาตอนนี้ยุนกิได้เห็นว่าแทฮยองกำลังทำหน้าสุขสมแค่ไหนและมองมาที่ตัวเองด้วยสายตายังไง  ยุนกิก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองมันเต้นผิดจังหวะทันที






แววตาคมตอนนี้ที่มันกำลังปรือปรอยเพราะแรงอารมณ์กำลังจ้องมองมาที่ใบหน้าหวานอย่างไม่ละสายตา  แทฮยองได้แต่แลบลิ้นออกมาลากเลียผ่านริมฝีปากของตัวเองช้าๆ ในขณะที่จ้องมองไปที่คนตัวเล็กที่กำลังขยับตัวขึ้นลงอยู่บนร่างกายตนเอง และก่อนที่แทฮยองจะค่อยๆเลื่อนสายตาไล่ลงต่ำลงมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงอวัยวะที่มันเพิ่งจะได้รับการปลดปล่อยไปได้ไม่นานแต่ในตอนนี้มันกลับโป่งพองขึ้นมาอีกครั้งแล้ว








รอยยิ้มที่ดูร้ายกาจถูกยกขึ้นมาที่มุมปากเบาๆ ก่อนแทฮยองจะละมือข้างนึกออกมาจากสะโพกสอบที่กำลังจับอยู่และยื่นไปจับรูดรั้งตรงส่วนนั้นของคนตัวเล็กแทนโดยไม่คิดจะขอความเห็นใดๆจากเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย










“ท—แท..อย่า..ฮื่อ..อย่าทำ..”   






ซึ่งเจ้าตัวคนที่อยู่ดีๆ ก็โดนมือหนาจับรูดรั้งอย่างมินยุนกิก็ได้แต่พูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  ในขณะที่ร่างกายเริ่มจะอ่อนแรงลงจนต้องหยุดการกระทำที่ตัวเองกำลังทำอยู่ลงและใบหน้าหวานก็ซุกลงไปที่แผงอกของคนตรงหน้า








“ขยับต่อสิ..”







“ม—ไม่ได้..ทำไม่ได้..แท...อึก...แทต้องหยุดมันก่อน..”






“จะหยุดยังไง อยากทรมานเหรอ.. มันปริ่มมาขนาดนี้แล้วนะ”  เสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูซุกซนได้พูดออกมาในขณะที่มือก็ยังเฝ้ารูดรั้งไม่ยอมหยุด 
มินยุนกิได้แต่ค่อยๆก้มหน้าลงไปมองดูก็เห็นว่าในตอนนี้มันปริ่มออกมาจริงๆ จึงเริ่มจะรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย








“ขยับต่อสิครับ..”    






"ม..ไม่ไหว...ยุนกิไม่มีแรงขนาดนั้นหรอก.."






"จริงเหรอ ?"  เสียงทุ้มพูดบอกออกมาก่อนจะแกล้งเลื่อนเอานิ้วไปกดปิดตรงส่วนนั้นเอาไว้ทำให้ใบหน้าหวานต้องบูดเบี้ยวลงไปทันที พร้อมกับที่เรียวปากเล็กก็อ้าออกมาเหมือนจะส่งเสียงร้องแต่สิ่งเดียวที่ออกมาจากเรียวปากก็มีแค่เพียงอากาศเท่านั้น     หน้าอกเล็กได้กระเพื่อมขึ้นลงเพราะการหอบหายใจถี่รัวของคนตัวเล็ก









กำลังจะตาย
มินยุนกิรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย..









แววตาคู่สวยที่เอ่อล้นไปด้วยคราบน้ำตาอย่างน่าสงสารได้แต่จ้องมองไปที่ตัวของคนที่อยู่ดีๆ ก็ใช้มือกดปิดส่วนนั้นของตัวเองเอาไว้ด้วยความไม่เข้าใจ      เรียวปากเล็กอย่างที่จะต่อว่าการกระทำที่คนตัวสูงทำอยู่แต่ก็ไม่อาจทำได้เลย เพราะความจุกมันทำให้พูดไม่ออก



รอยยิ้มบนใบหน้าของแทฮยองในตอนนี้มันเป็นรอยยิ้มที่ยุนกิเกลียดมันมากที่สุด ..










"ขยับเร็วๆสิครับ รีบๆทำเข้าไม่อยากทำงานต่อหรือไงกัน" 






แทนการตอบคำถามมินยุนกิได้แต่ส่ายหน้าไปมาช้าๆ ด้วยความทรมาน   เหงื่อเม็ดเล็กๆได้ผุดขึ้นเต็มใบหน้าไปหมด และด้านแทฮยองที่เห็นไปหมดก็เหมือนจะพอใจหน่อยๆ  จึงตัดสินใจเลิกแกล้ง  ได้แต่ขยับปลายนิ้วออกมาจากจุดที่ปิดทับอยู่และใช้มือของตัวเองขยับรูดรั้งให้คนตัวเล็กดังเดิม
ใบหน้าหวานได้แต่บูดเบี้ยวไปตามแรงอารมณ์พร้อมเสียงครางก็ดังลั่นออกมาจากกลีบปากบวมช้ำไม่หยุด   และในเวลาไม่นานร่างเล็กก็ต้องหอบหายใจจนตัวโยนเพราะความอึดอัดของตัวเองถูกปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สองโดยครั้งนี้ได้ปลดปล่อยโดยมือของแทฮยองเอง           ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดูเพราะรู้สึกอายนิดหน่อยที่ตัวเองสามารถเสร็จได้ง่ายๆถึงสองครั้งด้วยกันแบบนี้  ในขณะที่ทางด้านคนผิวเข้มยังไม่เสร็จสักรอบเลย









หลังจากที่มีโอกาสได้หยุดพักหายใจได้ไม่นานอยู่ดีๆ ยุนกิก็รู้สึกถึงแรงกระแทกที่คนผิวเข้มสวนสะโพกขึ้นมา   แอบเหลือบสายตาไปมองดูช้าๆ ก็เห็นว่าในตอนนี้ใบหน้าของคนผิวเข้มกำลังทรมานขนาดไหนและยุนกิก็คิดว่าตัวของแทฮยองเองก็คงอยากที่จะปลดปล่อยเต็มทนแต่ก็ไม่สามารถที่จะปลดปล่อยออกมาได้เสียทีเพราะจังหวะการขยับของเขามันไม่อาจทำให้อีกฝ่ายขึ้นไปยังจุดสูงสุดได้      


คนตัวเล็กได้แต่ตัดสินใจสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆอีกครั้งก่อนจะพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีของตัวเองเพื่อจะสวนสะโพกขึ้นลงแบบถี่รัวเร็วๆ จนทำให้แทฮยองต้องครางเสียงต่ำออกมาอย่างสุขสม  ก่อนที่เสียงครางโทนต่ำของแทฮยองนั้นจะโดนเสียงหวีดร้องเสียงหลงและสูงของคนตัวเล็กกลบจนไม่หมด    มินยุนกิได้แต่โน้มใบหน้าลงไปประกบจูบกับแทฮยองอย่างต้องการจะปิดเสียงครางแสนน่าอายของตนเองและต้องการที่จะเติมพลังให้กับกิจกรรมที่ต้องทำอยู่  มือเล็กได้แต่ปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังก่อนจะจับขยำและดึงเสื้อที่คนผิวเข้มสวมใส่อยู่อย่างไม่กลัวว่าจะขาด   สะโพกสอบยังคงขยับขึ้้นลงอย่างรู้งานและมีบางจังหวะที่แทฮยองก็สวนสะโพกขึ้นอย่างจงใจจะช่วย   
เสียงหายใจฮึดฮัดดังขึ้นมาเบาๆ เมื่อยุนกิพบว่ามันมักจะเป็นแบบนี้ตลอดเลย



ในขณะที่เขาแทบจะเปลือยเปล่าไปทั้งตัวแทฮยองมักจะมีเสื้อผ้าอยู่ครบและมิดชิดกว่าตลอด     ..







มือเล็กยังคงพยายามที่จะข่วนไปตามแผ่นหลังของคนผิวเข้มซ้ำไปซ้ำมาแม้รู้ว่ามันจะไม่ทำให้เกิดรอยก็ตามเพราะอีกฝ่ายยังสวมเสื้อผ้าเอาไว้อยู่     รสจูบเริ่มที่จะหนักหน่วงและดุเดือดกว่าทุกทีเพราะคนตัวเล็กได้ใส่อารมณ์หงุดหงิดของตัวเองลงไปด้วยและก่อนทีเวลาจะผ่านไปไม่นานในที่สุดยุนกิก็รู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนที่ฉีดเข้ามาในร่างกายตัวเอง  








การสอดประสานได้หยุดลงพร้อมๆ กับแขนเล็กทั้งสองข้างที่เคยวอแวอยู่กับแผ่นหลังของแทฮยองถูกปล่อยให้ห้อยลงมาด้วยความอ่อนล้าพร้อมๆ ริมฝีปากของคนทั้งสองค่อยๆละออกจากกันโดยมีน้ำใสไหลเชื่อมออกมาด้วย  ใบหน้าหวานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบเหงื่อและร่องรอยความอ่อนล้าได้แต่ซบลงไปที่แผงอกของคนผิวเข้มอย่างหมดแรงเพราะรู้สึกถูกสูบพลังงานไปจนหมด
บอกตามตรงว่ามีอะไรมากี่ครั้งๆ ก็ไม่เหนื่อยเท่าครั้งนี้ คงอาจเป็นเพราะร่างกายที่อ่อนล้าเพราะพิษไข้มันยังฟื้นตัวไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นัก    ก่อนที่ใบหน้าหวานจะรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้งหลังค้นพบว่าเมื่อกี้ตอนที่แทฮยองปลดปล่อยออกมาตัวเองก็ได้ปลดปล่อยครั้งที่สามออกมาด้วยเช่นกัน







และทางด้านของแทฮยองที่ตอนนี้ก็กำลังหอบหายใจออกมาด้วยความหอบเหนื่อยไม่แพ้กันได้แต่ค่อยๆ ก้มใบหน้าลงไปมองดูเจ้าลูกแมวที่กำลังหมดสภาพคาอกของตัวเองอย่างนึกเอ็นดู     มือหนาค่อยๆจับเอาร่างที่มันอ่อนปวกเปียกไปหมดทั้งตัวของเจ้าลูกแมวยกขึ้นช้าๆ เพื่อนถอดถอนการสอดประสานทั้งหมดออก    ได้ยินเสียงห้าวหวานครางออกมาเบาๆ คงเพราะคนตัวเล็กคงรู้สึกหวาบหวิวไม่น้อยที่อยู่ดีๆ ความโล่งก็เข้ามาแทนที่ความอึดอัดในตอนแรก









ยังไม่จบนะงับ มีต่ออีกนิดนึง ♥


อ่านต่อ :  https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1578832&chapter=11